เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน เขตบางรัก  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดตัวนโยบายอาหารกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2566-2570 ตามเครือข่ายกติกาสัญญานโยบายอาหารในเมืองมิลาน  โดยมี นายเดวิด เดลี (Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย นายเปาโล ดิโอนิซี (Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย น.ส.อันนา สคาวุซโซ (Ms. Anna Scavuzzo) รองนายกเทศมนตรีนครมิลาน นายพาโบล กานดารา (Mr. Pablo Gandara) หัวหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างเมืองและภูมิภาคนานาชาติประจำภูมิภาคเอเชียและออสตราเลเชีย (โครงการ IURC Asia and Australasia) นายฟิลิปโป กาวาสเซนี (Mr. Filippo Gavazzeni) หัวหน้าสำนักงานเลขานุการเครือข่ายกติกาสัญญานโยบายอาหารในเมืองมิลาน (MUFPP) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร รักษาราชการแทนปลัดกรุงเทพมหานคร นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร (Chief Sustainability Officer: CSO) และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิด  

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เริ่มจาก กทม.มีความร่วมมือกับเมืองมิลานที่ได้มีการประชุมเรื่องนโยบายอาหารของเมือง โดยมีเมืองเครือข่าย 200 กว่าเมือง จากนั้น EU ได้ให้เงินสนับสนุนให้กทม.ทำนโยบายอาหารกรุงเทพมหานคร เหมือนกับมิลาน เป็น Bangkok Food Policy เน้นความเท่าเทียม คุณภาพ และความยั่งยืน 

มีนโยบาย 7 ด้าน ได้แก่ 1 เสริมความเข้มแข็งการผลิตอาหารในเมือง 2.สร้างมาตรฐานตลาดและจุดกระจายสินค้าเกษตรและอาหาร 3.ยกระดับสถานประกอบการอาหารในพื้นที่กทม. 4.ธนาคารอาหารและส่วนลดค่าอาหาร 5.จัดการขยะอาหารเป็นระบบครบวงจร 6.ส่งเสริมความรู้ด้านโภชนาการสำหรับเด็กและประชาชน และ7.หลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้มีความมั่นคงทางอาหารมากขึ้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีนโยบายอาหารของกทม.


โดยความร่วมมือที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ เช่น เรื่องธนาคารอาหาร จะมีการดำเนินการเป็นต้นแบบในบางเขตก่อน เริ่มที่เขตห้วยขวางแล้วค่อยขยายไปเขตอื่น ตอนนี้มีการทำศูนย์ที่มารับอาหารได้ ต่อไปจะมีการพัฒนาเป็นดิจิทัลให้เป็นเครดิตหรือเป็นแต้มให้คนที่ต้องการสามารถเข้ามาชอปปิ้งและหักแต้มไปเหมือนไปซูเปอร์มาร์เก็ต โดยเขตจะเป็นผู้ดำเนินการว่าใครที่จะได้รับสิทธิ์หรือแต้ม


ทั้งนี้ นโยบายอาหารเป็น 1 ใน 8 ด้าน ของเป้าหมายการผลักดันความยั่งยืนเมือง ประกอบด้วย 1. ขยะ 2. ขนส่ง 3. พื้นที่สีเขียว 4. พลังงาน 5. อากาศ 6. น้ำ 7. อาหาร 8. บริหารจัดการและเศรษฐกิจสีเขียว


สำหรับกิจกรรมการเปิดตัวนโยบายอาหารฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 พ.ย.66 ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. การนำเสนอนโยบายอาหารของกรุงเทพมหานคร เป็นการนำเสนอกระบวนการการดำเนินงานของกทม.ที่ผ่านการประสานความร่วมมือจากเครือข่ายกติกาสัญญานโยบายอาหารในเมืองมิลาน (Milan Urban Food Policy Pact : MUFPP) และ International Urban and Regional Cooperation Asia and Australasia : IURC Asia and Australasia) ของสหภาพยุโรป นำไปสู่การร่างนโยบายอาหารกทม. เพื่อไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเมืองสมาชิก MUFPP เข้าร่วมงาน พร้อมด้วยเครือข่ายภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและเชื่อมต่อความร่วมมือระหว่างกัน 

2. การเสวนา และการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เป็นการอภิปราย และแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการอาหารของกรุงเทพมหานคร  โดยมีประเด็นหลักเรื่องธนาคารอาหาร อาหารส่วนเกิน การจัดการขยะอาหาร อาหารโรงเรียน และอาหารปลอดภัย สู่การดำเนินโครงการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 
และ 3. การศึกษาดูงานการดำเนินงาน District Food Management Sandbox ได้แก่ การเยี่ยมชม BKK Food Bank Huai Khwang District Model ของสำนักงานเขตห้วยขวาง เป็นการนำเสนอการบริหารจัดการอาหารในพื้นที่เขต การจัดทำโครงการ Food Bank 


การดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายตามแนวคิด “บวร” ได้แก่ วัดพระราม 9 เฉลิมพระเกียรติ ชุมชนในพื้นที่ และโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร และเป็นต้นแบบอาหารสำหรับนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างยั่งยืน  


การเยี่ยมชม District Food Management Sandbox ของสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ เป็นการนำเสนอการบริหารจัดการอาหารของเขตซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องธุรกิจร้านอาหาร และการบริหารจัดการอาหารร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน การจัดทำ Food Bank และการพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรมที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่เขตชั้นในที่เป็นแหล่งผลิตอาหาร.