และแล้วสายน้ำก็ไหลย้อนกลับ สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่มาคุมทีมชาติไทย แทนที่ มาโน โพลกิง หลังผ่าน 2 นัดแรกบอลโลก เล่นในบ้านแพ้จีน 1-2, บุกชนะ สิงคโปร์ 3-1
เป็นการย้อนกลับมาแบบจะว่าไม่แปลกก็ไม่แปลก จะว่าแปลกก็แปลก
อิชิอิ อดีตกุนซือ คาชิมา แอนท์เลอร์ส โยกมาไทย คุม สมุทรปราการ ซิตี้ แล้วพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าทริปเปิลแชมป์ 2 รายการ
เส้นทางสู่ทัพช้างศึก ต้องไล่กันทีละชอต
ต้นฤดูกาลไทยลีก มีกระแสข่าวว่า อิชิอิ จะโดน บุรีรัมย์ปลด สร้างความตะลึงให้ทั่ววงการ เพราะเขาเพิ่งพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ สมัย 2 และกำลังนำทีมลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก
ไทยลีกนัดแรกๆ บทบาท ถอยไปนั่งเฉยๆ ในซุ้มม้านั่งสำรอง ให้ อาเธอร์ ปาปาส ยืนคุม
จากนั้นในงานแถลงข่าว “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ จะชิงนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยมี บุรีรัมย์ กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หนุน เมื่อ 13 ส.ค. 66
หนึ่งในข้อที่น่าสนใจคือ มาดามแป้ง ตั้ง อิชิอิ เป็นประธานเทคนิคทีมชาติไทย โดย นายเนวิน ชิดชอบ บอกว่า เขาจ่ายเงินเดือนให้
ยืนยัน ไม่ได้เอามาจ่อ หรือรอเสียบ มาโน โพลกิง แต่ให้ทำงานร่วมกัน
งานร่วมกัน ที่ไม่รู้ร่วมกันจริงไหม คือ คิงส์คัพ ที่เชียงใหม่ ที่กระแสข่าวว่า ต่างฝ่ายต่างไปคนละทาง ถึงขนาด มาโน โพลกิง บอกว่า เขาไม่ได้ใช้ข้อมูลอะไรที่ อิชิอิ ให้มา ก็แค่รับฟังไว้
จบคิงส์คัพ ไทยได้อันดับ 2 รอบชิงชนะเลิศแพ้จุดโทษอิรัก กระแสตอบรับดี ขณะที่แข่งจบปุ๊บ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน รุ่นเก๋าของช้างศึก โพสต์โซเชียลปั๊บ “ตนเองและทีมสนับสนุนมาโน”
จากนั้น มาดามแป้ง ให้สัมภาษณ์นักข่าว ยืนยัน มาโน ยังมีสัญญา จะเป็นโค้ชต่อไป
ส่วน อิชิอิ ก็ค่อยๆ เฟดออกไปจากหน้าจอเรื่อยๆ
จนเขามาให้สัมภาษณ์ “คิดไซด์โค้ง” พูดแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม แบบไฟลุก
อิชิอิ บอกว่า มาดามแป้ง ตกลงกับเขาไว้หลังจบ คิงส์คัพ จะให้เป็นโค้ชช้างศึก แต่งงว่าทำไมกลับลำ เขาจึงต้องขอตัวกลับญี่ปุ่น เพราะนิ่งสนิท เอาไงก็ไม่รู้ ครั้นจะให้มาเป็นประธานเทคนิคต่อไปก็ไม่เอาแล้ว ที่รับไว้ตอนนั้นเพื่อรอเป็นโค้ชต่างหาก ไม่ได้อยากเป็นประธานเทคนิค
นอกจากนี้วิจารณ์นักเตะไทย ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับทีมชาติ…ข้อนี้ ใครจะพุ่งเป้าไปที่ใครก็สุดจะคิด
แต่บทสัมภาษณ์ทิ้งท้าย พร้อมกลับมาทำทีมชาติไทย หากตกลงกันได้ และยืนยันยังอยากทำทีมชาติไทย
วงการบอลไทยก็เดินไป ฟีฟ่าเดย์เดือน ก.ย. ทัวร์ยุโรป สโมสรใหญ่ไม่ปล่อยนักเตะ มาโน นำทีมไทยไปโดน จอร์เจีย จ้วง 0-8 ก่อนเสมอ เอสโตเนีย 1-1
นั่นคือมรสุมแรก ที่ซัดเอาอ่วมทั้งวงการ
โอกาสเดียวจะกู้หน้า คือเปิดคัดบอลโลก ต้องชนะจีน ที่ถือเป็นคู่แข่งโดยตรง แย่งเข้ารอบ
แต่กลายเป็นว่า แพ้จีนคาบ้าน 1-2 สถานการณ์ลำบาก
ตอนนั้นกระแสแว่วๆ มาแล้วว่า วงในคุยกันเรียบร้อย มาโน จะคุมทีมไปสิงคโปร์ เป็นเกมสุดท้าย
และชื่อ อิชิอิ ก็ค่อยๆ มาตามลม
หลังจบนัดเตะกับทีมเมอร์ไลออนส์ ชัยชนะ 3-1 ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไร มาโน เดินขอบคุณแฟนๆ น้ำตานองหน้า นักบอลก็ร้องไห้ด้วย
ภาษากายออกชัดเจน!
ข่าวเล็ดลอดออกมา ตั้งแต่ช่วงค่ำนั้น ทุกอย่างจบแล้ว ร่างคำแถลงแล้ว อยู่ที่ว่าจะปล่อยข่าวตอนไหนถึงจะเหมาะสม
มองถึงโค้ชใหม่ คาดเดาต่างๆ นานา ตัวเต็งคือ อิชิอิ
แต่ก็มีข้อแย้งว่า โอ้โห ไปแฉเขายับขนาดนั้น เขาจะจ้างเหรอ หรือบางสื่อไปหาข้อมูลมาว่า “ท่านไม่เอา”, หรือไม่ก็ว่า อิชิอิ จะมารับงานแถวนี้ แต่ไม่ใช่ทีมชาติไทย
อีกกระแสบอก อิชิอิ จะรับงาน แอนท์เลอร์ส
จนเช้าวันนี้ (22 พ.ย.) สื่อญี่ปุ่นตีข่าวมาก่อนเลยว่า อิชิอิ รับงานคุมทีมชาติไทยแล้ว
จากนั้นช่วงบ่าย มาโน ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ก็ยังไม่รู้อนาคตตัวเอง ตอนนี้เป็นโค้ช อีกไม่กี่ชั่วโมงอาจไม่ใช่
กระทั่งทีมชาติไทย กลับมาถึงบ้านได้สัก 1-2 ชั่วโมง
ราวๆ 15.30 น. ก็ออกแถลงข่าว มาดามแป้ง ยืนยันปลด มาโน ตั้ง อิชิอิ
ปิดฉากการทำงาน 2 ปี ของ มาโน โพลกิง ที่เริ่มต้นจากพาทีมคว้าแชมป์อาเซียนที่สิงคโปร์ แล้วก็มาเบิ้ลแชมป์อาเซียนอีกครั้ง ก่อนจะทำงานนัดสุดท้ายที่สิงคโปร์อีก
ข้อกังขาคือการขึ้นชั้นไปต่อกรกับทีมเอเชียยังทำได้ไม่ดี
ส่วน อิชิอิ นับจากเป็น “ตัวลอย” จาก บุรีรัมย์ มาทีมชาติไทย อยู่พักหนึ่ง เข้าสู่ช่วงสุญญากาศไม่นาน
วันนี้ ได้มานั่งตำแหน่งที่เขาตั้งใจเรียบร้อยแล้ว
งานแรกคือนำทีมไทย บุกบ้านเกิด ญี่ปุ่น ในนัดกระชับมิตร 1 ม.ค. 67 เป็นการอุ่นเครื่อง เอเชียนคัพ ที่กาตาร์ ที่ร่วมกลุ่ม คีร์กีซสถาน, โอมาน, ซาอุดีอาระเบีย และไปคัดบอลโลก 2 นัดเจอเกาหลีใต้ เดือน มี.ค.
ดุเดือดเลือดพล่านทุกนัดตั้งแต่เริ่ม ไม่เหมือนตอน มาโน ที่เริ่มจากชิงแชมป์อาเซียน
ในยุค อิชิอิ ทีมชาติไทยจะยกระดับสู้กับเอเชียได้หรือไม่
จะเห็นแววตั้งแต่ช่วงแรกกันเลย.
*** วุฒินล ***