ล่าสุดทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จึงได้ร่วมกับ 9 ค่ายรถ  โดย บจก.โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย บจก.ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)  บจก.ตรีเพชรอีซูซุเซลส์  บจก.มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) บจก.ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) บจก.นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)  บจก.มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) บจก. ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) บจก.ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) เดินหน้า โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ครั้งที่ 5 สนับสนุนการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง 

ทั้งนี้ค่ายรถยนต์ร่วมใจให้ส่วนลดค่าบำรุงรักษาเพื่อลดควันดำสำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน ในพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น ตรวจสอบสภาพฟรี ส่วนลดน้ำมันเครื่อง ค่าแรง และค่าอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินเก่าในพื้นที่ทั่วประเทศ สูงสุด 6 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย. 66- สิ้นเดือน เม.ย. 67 จะมีศูนย์บริการกว่า 1,742 แห่ง ผู้ใช้รถค่ายไหนสนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการ 9 ค่ายรถ 

ตัวอย่างโปรโมชัน เช่น  อายุรถยนต์มากกว่า 15 ปี : ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 20% ตรวจเช็กสภาพฟรี 22 รายการ ส่วนลดค่าแรง 20% และส่วนลดค่าอะไหล่ 20% อายุรถยนต์มากกว่า 7 ปี : ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 30% ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% อายุรถยนต์มากกว่า 5 ปี : ตรวจเช็กสภาพฟรี 38 รายการ ส่วนลดน้ำมันเครื่องมากกว่า 20% ส่วนลดค่าแรง 55% ส่วนลดค่าอะไหล่ 50%

“ยุพิน บุญศิริจันทร์” ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.  ระบุว่า  “ส.อ.ท. และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนิน “โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5” 4 ครั้งที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้ร่วมกันให้ส่วนลดในการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่หมดระยะเวลาการรับประกันเกือบ 500,000 คัน สามารถคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงินที่บริษัทสมาชิกสนับสนุนงบประมาณการดำเนินโครงการฯ มากกว่า 380 ล้านบาท”

“แนวทางการสนับสนุนให้ประชาชนมีการบำรุงรักษารถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์เก่า จะเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ของรถยนต์ และลดผลกระทบที่จะทำให้เกิดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ยังเป็นการผลักดันให้เกิดการพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษ และเตรียมพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สอดคล้องกับทิศทางของโลก”.