โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (อีดี) เป็นเพียงอาการหนึ่งในหลาย ๆอาการของการบกพร่องทางเพศ (เอสดี : SD(Sexual dysfunction)) ได้แก่ อาการหลั่งเร็ว อาการหลั่งช้า อาการเฉื่อยชาทางเพศ การไม่ถึงจุดสุดยอด อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งตามระดับความรุนแรงของอาการ จากการศึกษาในชายสูงอายุในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งศึกษาระบาดวิทยาของอาการนี้ไว้ดังนี้

หย่อนสมรรถภาพอีดี ระดับต่ำ ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดี สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เกือบทุกครั้ง, หย่อนสมรรถภาพอีดี ระดับปานกลาง ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดี สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เป็นบางครั้ง และหย่อนสมรรถภาพอีดี ระดับรุนแรง ผู้ป่วยไม่สามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดีพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เลย

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีดี ประกอบด้วยโรคต่าง ๆ จำนวนมาก ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง และ โรคมัลติเปิล สเคลอโรซิส (Multiple Sclerosis) โรคเหล่านี้ทำให้เกิดความผิดปกติต่อหลอดเลือด เส้นประสาทของอวัยวะที่จะมีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ นอกจากนั้นยาหลายชนิดก็มีผลด้วยเช่นกัน การลดลงของการสร้างฮอร์โมนชายแอนโดรเจนก็อาจทำให้ความสนใจในทางเพศลดลง และ/หรือทำให้การแข็งตัวลดลงด้วย

เมื่อผู้ชายท่านใดเริ่มมีอาการอีดี หรือมีอาการมานานแล้วและยังไม่ได้รับการแก้ไข ควรเริ่มให้ความสำคัญกับอาการเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะพบว่าผู้ชายทั่วโลกเป็นอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีดี มากกว่า 100 ล้านคน ประมาณว่า 52% ของชายอายุ 40-70 ปีมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีดี ระดับใดระดับหนึ่ง ตามอายุที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนเหล่านี้จำนวนมากมีปัญหาความเครียดที่กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว และอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า สูญเสียความนับถือตัวเอง และมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของ
ตนเอง ดังนั้นชายท่านใดที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีดี ไม่ว่าจะระดับมาก ปานกลาง หรือน้อยก็ตาม ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการแก้ไขฟื้นฟูต่อไป

ปัจจุบันการรักษาสามารถรักษาให้แข็งแรงได้ระดับที่ดีเกิน 95% ยิ่งเริ่มรักษาและฟื้นฟูเร็ว ยิ่งฟื้นตัวได้เร็ว โอกาสที่จะฟื้นตัวรักษาแล้วสามารถแข็งแรงได้เท่าวัย 30 ปี พบได้เกิน 90% โดยเฉพาะกลุ่มเบาหวานเรื้อรัง กลุ่มมะเร็งต่อมลูกหมากหรือฝังแร่ รักษาด้วยการผ่าตัด ฝังแร่ หรือฉายแสง จึงเป็นโอกาสที่ชายผู้มีความรับผิดชอบต่อฝ่ายหญิงสมควรมีความสุขแข็งตัวร่วมเพศได้ทุกวันหลังรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

———————–
ดร.อุ๋มอิ๋ม