ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน.. เกิดมาพร้อมกับหน้าที่ หลายคนต้องไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง ไปทำงานต่างประเทศ หวังเพียงเก็บเงินส่งมาให้ครอบครัว โดยไม่กลัวความลำบากและภยันตรายใดๆ แค่อยากให้พ่อแม่ลูกเมียมีความสุข หมดหนี้หมดสิน และมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายไม่เดือดร้อน
อย่างกลุ่มแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลจำนวนมาก สาเหตุที่ตัดสินใจไปเพราะความยากจน และปัญหาหนี้สิน ยอมอดทนเพื่อครอบครัว แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเกิดสงครามขึ้นได้ บางคนโชคดีได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน แต่บางคนโชคร้ายต้องเอาชีวิตไปทิ้ง ได้กลับมาเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ
นายวิไล เทพเหมือนไพร อายุ 40 ปี ก็เป็นหนึ่งในแรงงานไทยที่ไปทำงานอิสราเอลและรอดชีวิตกลับมา เขาเดินทางกลับมาบ้านเกิด เลขที่ 21 หมู่ 4 บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ต.ค. โดยมี นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก พร้อมหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ อีกทั้งพ่อ แม่ ภรรยา ลูก และญาติๆ มารอโอบกอดด้วยความดีใจ
นายวิไล ดีใจใบหน้ามีรอยยิ้มตลอดเวลาหลังได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น พร้อมเล่าเหตุการณ์รอดชีวิตครั้งนี้ให้กับทุกคนฟังว่า ทันทีที่กลับถึงแผ่นดินประเทศไทย ชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุการณ์สู้รบนั้น ที่พักของตนอยู่ห่างฉนวนกาซาเพียง 7 กม.เท่านั้น จะได้ยินเสียงขีปนาวุธถูกยิงสกัดบนท้องฟ้าเหนือหัวทั้งวันทั้งคืน
ขณะเกิดเหตุนายจ้างก็ได้หนีไปหลบภัยที่อื่นปล่อยให้ตนกับเพื่อนแรงงานไทยชาวสกลนครอีก 4 คน เผชิญชะตากรรมตามลำพังโดยซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย จะออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะกลัวจะถูกกลุ่มฮามาสยิง และกลัวจะได้รับอันตรายจากสะเก็ดระเบิด
พอมีโอกาสก็โทรประสานสถานทูตไทยเพื่อขอความช่วยเหลือกลับบ้าน และส่งข่าวมาให้ทางบ้านทราบว่าตัวเองปลอดภัย ยังดีที่ในหลุมหลบภัยพอมีน้ำมีอาหารเหลือให้กินประทังชีวิต ตลอดเวลา 15 วัน จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล
“สิ่งที่ตนเชื่อว่าทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้รับการช่วยเหลือจนได้เดินทางกลับบ้านนั้น เพราะว่าตนจะหมั่นรำลึกถึงพระคุณพ่อแม่ สวดมนต์ภาวนาบูชาพระรัตนตรัย และพุทธคุณของพระเครื่อง 3 องค์ที่ห้อยคออยู่ตลอดเวลา คือ หลวงพ่อรวย หลวงพ่อผ่าน และหลวงพ่อพิมูล ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่พ่อแม่ให้ติดตัวไปช่วยคุ้มครองป้องกันภัย ตั้งแต่เดินทางไปขายแรงงานที่อิสราเอลเมื่อ 4 ปีก่อน
โดยตนไปทำงานในสวนเกษตร รายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท เหลือสัญญากับนายจ้างอีก 1 ปี หากเหตุการณ์สงบตนเองก็ยังอยากจะกลับไปทำงานอีก เพราะรายได้ดี แต่ก็จะดูเหตุการณ์ไปก่อนและตัดสินใจพร้อมกับครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง”
ด้านนางชาลินี เทพเหมือนไพร อายุ 37 ปี ภรรยานายวิไล กล่าวด้วยความดีใจว่า ได้สามีกลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่สุดแล้ว ใจจริงไม่อยากให้สามีกลับไปอีก เพราะกลัวจะได้รับอันตราย ค่อยทำมาหากินทำนาทำไร่ที่บ้านเราก็พออยู่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ก็สุดแท้แต่สามีว่าจะกลับไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานกระทรวงแรงงาน นายอำเภอห้วยเม็ก นายก อบต.พิมูล ผู้นำชุมชน รัฐบาล และกงสุลไทย ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจ และช่วยเหลือสามีให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยในครั้งนี้.
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม จ.กาฬสินธุ์
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..