องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติจัดอันดับ “ดัชนีการรับรู้การทุจริต” หรือ Corruption Perceptions Index : CPI ทุกปี เป็นค่าดัชนีสำคัญใช้วัดความโปร่งใสและสะท้อนภาพลักษณ์การทุจริตของประเทศ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนใช้ประเมินความน่าสนใจในการลงทุน หากคะแนนดัชนีสูง แสดงว่าประเทศนั้นมีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อมั่น

เอาเป็นว่าตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 57 เรื่อยมา ค่า CPI ของไทยตกต่ำยิ่งกว่าก่อนมีรัฐประหารเสียอีก โดยปีหลังสุดคือ 2565 ที่ประกาศไปช่วงเดือน ก.พ. 66 ปรากฏว่าไทยคว้าอันดับ 101 จาก 180 ประเทศ

คำถามคือ 9 ปีที่ผ่านมา “ป.ป.ช.” โดยเฉพาะประธานป.ป.ช.-กรรมการป.ป.ช.หลายคน มีที่มาจากผลพวงของการรัฐประหาร จับทุจริตคอร์รัปชันสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กี่เรื่อง?

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนไม่รับคำร้องที่ขอให้พิจารณาคดีใหม่ ดังนั้นป.ป.ช.ต้องโชว์เอกสารการสอบเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีแหวนแม่-นาฬิกาหรูยืมของเพื่อนที่ตายแล้วมาใส่ถึง 21 เรือน ให้แก่นายวีระ สมความคิด ในฐานะผู้ร้องขอ

แต่วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการ 31 คน เพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับคนไทยทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คาดว่าโครงการนี้จะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท

พูดง่าย ๆ ว่าเจ้าของโครงการคือรัฐบาลนายเศรษฐา ยังอยู่ในขั้นตอนประชุมรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ยังไม่ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายเลยว่า จะเอาเงินมาจากไหน แจกให้ใครบ้าง จำนวนคนเท่าไหร่แน่ แจกผ่านช่องทางอะไร จะเริ่มแจกเมื่อไหร่ ซึ่งดูแล้วอาจไม่ทันวันที่ 1 ก.พ. 67

แต่ ป.ป.ช.ขยันมาก! ทำงานแซงหน้าไปแล้ว เมื่อพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. เซ็นแต่งตั้งคณะกรรมการ 31 คน ขึ้นมาติดตามและตรวจสอบโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ตั้งแต่ไก่โห่! นำทีมโดยน.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานกรรมการ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ เป็นรองประธานกรรมการ

“พยัคฆ์น้อย” ขอบอก ป.ป.ช. ให้ใจเย็น ๆ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้แจกเงินดิจิทัล แต่แจกน่ะ แจกแน่นอนเพราะ 1.เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และ กกต.ไม่ได้เบรกนโยบายนี้ 2.เป็นนโยบายการทำงานของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

3.เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะ “จีดีพี” ตก! วันนี้พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ยังไม่ออก เงินจากภาครัฐที่จะออกไปกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ จึงยังไม่มี กว่าจะมีก็ราว ๆ กลางปี 67 ดังนั้นจึงต้องแจกเงินหมื่นให้ประชาชนไปจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันก่อนคนในสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) บอกว่าช่วงที่รองบประมาณปี 67 อีกหลายเดือน ถ้าไม่มีโครงการใหญ่ ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจเลย! ปีหน้าจะลำบาก เนื่องจากปัจจุบันประชาชนหารายได้ไปจ่ายหนี้ เมื่อมีภาระหนี้สูง การบริโภคและการลงทุนจึงน้อย

แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนประชุมเตรียมการ เพราะเพิ่งเป็นรัฐบาลไม่ถึง 2 เดือน งบยังไม่มี แต่มีจระเข้ออกมาขวางคลองกันแล้วหลายคณะ บางคณะเกี่ยวข้องกับผู้เฒ่าที่ยังไม่เลิกฝันเป็นนายกฯ หรือเปล่าไม่รู้!!

—————–
พยัคฆ์น้อย