นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการนำนโยบายอีเอสจี เข้ามาผสานไว้ในแผนธุรกิจเพื่อรักษาขีดความสามารถและการเติบโตอย่างยั่งยืนมีเป้าหมายการปฏิบัติงานเพื่อมุ่งสู่เน็ต ซีโร่ จากการดำเนินงานภายในของธนาคารภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 รวมทั้งจากการให้สินเชื่อและการลงทุนภายในปี 2050 หรือ พ.ศ. 2593 โดยมุ่งเน้นการนำพาองค์กร ลูกค้า และสังคม ให้ก้าวไปข้างหน้า สร้างการเติบโตทางธุรกิจและเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
สำหรับแนวทางปฏิบัติ ได้แก่ เริ่มทยอยปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานในอาคารสำนักงานใหญ่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ลดการใช้พลังงานในอาคาร 10-15% ด้วยการเพิ่มแสงสว่างในอาคาร การเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแอลอีดี และระบบถ่ายเทความร้อนในอาคารเตรียมการติดตั้งโซลาร์ เซลล์ ที่สำนักงานใหญ่ เปลี่ยนเป็นเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นอาร์ 32 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า 3,000 เครื่อง รวมถึงเปลี่ยนการใช้รถยนต์เป็นรถอีวี 100% คาดว่า การดำเนินการทั้งหมดจะสำเร็จ 100% ภายในปี 2028 หรือ พ.ศ. 2571
นอกจากนี้ได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์การเงินยั่งยืนให้ลูกค้ามุ่งสู่เน็ต ซีโร่ ธนาคารต้องการมีส่วนในการผลักดันให้ลูกค้าทุกกลุ่มเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนตํ่า ผ่านการสนับสนุนการเงินเพื่อความยั่งยืน ในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมีเป้าหมายการให้สินเชื่อและการลงทุนจำนวน 100,000 ล้านบาทภายในปี 2025พร้อมด้วยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับองค์กรให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถปรับตัวรองรับกับโลกใหม่ที่ยั่งยืนไปด้วยกันได้ และ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมโดยรวม ให้ความรู้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อปรับตัวสู่ความยั่งยืน ปีนี้มีลูกค้าสนใจเข้าร่วมกว่า 500 บริษัท ดำเนินโครงการการช่วยเหลือสังคมเพื่อความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อมรวมกว่า 14 โครงการหลัก เช่น โครงการปลูกและอนุรักษ์ป่า โครงการจัดหาแหล่งนํ้า การพัฒนาชีวิตเยาวชน
“ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย ให้ความสนใจและปรับตัวเพื่อสอดรับกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้สินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ทะยานสู่ 52,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่าเป้าหมายของปีนี้ที่วางไว้ที่ 30,000 ล้านบาท และมาครึ่งทางของเป้าหมาย 3 ปีที่ 1 แสนล้านบาทในปี 2568”.
