ที่สำคัญประเทศไทยก็มี สมาคมสแต็คประเทศไทย (Thailand Sport Stacking Association : TSSA) ที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยสนับสนุนเยาวชนไทยให้ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาระดับมืออาชีพ ซึ่งช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ได้มีนักกีฬาไทยที่ไปคว้าแชมป์สแต็คโลกมาได้ แถมยังกวาดมาอีก 23 รางวัลจาก การแข่งขันสแต็คชิงแชมป์โลก ISSF World Sport Stacking Championship 2023 ณ เมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้กีฬาประเภทนี้เป็นกระแสสนใจขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับ “ประวัติของกีฬาสแต็ค” นั้น ได้ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1990 โดย คุณ Bob Fox จากการที่เขาสังเกตเห็นหลานที่ไปปิกนิกได้นำแก้วน้ำพลาสติกมาแข่งกันว่าใครสามารถที่จะเรียงแก้วน้ำต่อกันเป็นชั้นได้เร็วที่สุด ทำให้เขา มองว่าการละเล่นรูปแบบนี้นอกจากใช้เล่นเพื่อความสนุกแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาสายตา มือ และสมองได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็ก ๆ  เขาจึงเริ่มก่อตั้งสมาคมสแต็คนี้ขึ้นมา และได้มีการวางกฎกติกากับรูปแบบในการจัดการแข่งขัน จนต่อมาสแต็คได้พัฒนาไปเป็นการแข่งขันระดับโลกในปัจจุบัน

ส่วนในประเทศไทยนั้น คุณธีระ รัชตาธิบดี นายกสมาคมสแต็คประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า สแต็คในไทยเคยบูมอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ค่อย ๆ เงียบหายไป จนในปัจจุบันทางสมาคมฯ ได้ผลักดันให้กีฬาประเภทนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในกลุ่มเยาวชน โดยได้มีการส่งเสริมให้เล่นกันในโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงได้จัดการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะให้กับนักกีฬาสแต็คเรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง จนนักกีฬาไทยสามารถไปคว้าแชมป์โลกที่ประเทศเกาหลีใต้มาได้ พร้อมกับกวาดรางวัลติดมือกลับมาเมืองไทยอีกมากมายถึง 23 รางวัล

ขณะที่ประโยชน์ของกีฬาสแต็คนี้ นอกจากเป็นกีฬาและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั้งแขน มือ และนิ้วให้สัมพันธ์กับสายตาแล้ว กีฬานี้ยังช่วยทำให้ร่างกายได้เกิดการเชื่อมโยงกับสมอง  โดยจะทำให้สมองซีกซ้ายได้มีการพูดคุยกับสมองซีกขวา ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดการกระตุ้นพัฒนาการ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ และศิลปะ ที่ทำให้คนเราฉลาดขึ้น อีกทั้งกีฬาประเภทนี้ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้พัฒนาตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงสามารถช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากการเรียนกับการทำงานได้ดีอีกด้วย

โดยสแต็คนั้นเป็นกีฬาที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นง่าย ปลอดภัย ไม่มีการกระทบกระแทกรุนแรง แถมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองที่ช่วยชะลอและลดความเสี่ยงจากโรคความจำเสื่อม และด้วยประโยชน์ที่มีอย่างมากมายของ “สแต็ค (Stack)” ทำให้ทางสมาคมฯ จึงสนับสนุนให้กีฬาประเภทนี้ถูกนำไปใช้เล่นในชมรมและตามสวนสาธารณะต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมให้นำไปเผยแพร่ในกลุ่มผู้พิการ เพื่อให้เป็นกิจกรรมหรือการละเล่นเพื่อพัฒนาผู้พิการ อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อีกด้วย โดยใครที่สนใจกีฬาประเภทนี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สมาคมสแต็คประเทศไทย โทร.082-932-8146 และนี่ก็เป็นอีกประเภทกีฬาที่น่าสนใจกับ “Stack (สแต็ค)” กีฬาที่นับเป็น “Sport for All”.