น.อ.อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท.เตรียมร่วมมือกับ 120 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมรดกโลกสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร ระยะ 5 ปี (66-70) ตั้งเป้าหมายพัฒนายกระดับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เข้าสู่ 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก หรือท็อป 100 จำนวน 3 แหล่ง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนของไทยเพิ่มอีก 15 ชุมชน สร้างรายได้ให้มีเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ยกระดับเมืองและชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมให้มีเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ตลอด 5 ปีของแผนจะดำเนินงานรวม 50 โครงการ ภายใต้งบประมาณรวม 712 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินงานโดย อพท. จำนวน 24 โครงการ รวมวงเงิน 165 ล้านบาท เป้าหมายแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนที่ได้รับการยกระดับแล้วนั้น จะมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสะสมรวมภายในปี 70 ประมาณ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดสุโขทัย ประมาณ 19,403 ล้านบาท และ จังหวัดกำแพงเพชร ประมาณ 10,312 ล้านบาท
สำหรับแผนยุทธศาสตร์นี้ ล่าสุดได้ผ่านความเห็นชอบแล้วจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ ท.ท.ช. แล้ว โดยขยายพื้นที่การพัฒนาครอบคลุม 9,515.82 ตารางกิโลเมตร รวม 120 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มขึ้นจากยุทธศาสตร์เดิมที่ครอบคลุมเพียง 1,682 ตารางกิโลเมตร โดย อพท. ยังคงพัฒนาโดยยึดหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวยั่งยืนโลก (จีเอสทีซี) หลักเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย หรือ ซีบีที ไทยแลนด์ และการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านของยูเนสโก หรือ ยูซีซีเอ็น เป็นกรอบการทำงาน
น.อ.อธิคุณ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำแผนยุทธศาสตร์นี้เสนอต่อที่ประชุม ครม. พิจารณา โดยโครงการที่บรรจุในแผนยุทธศาสตร์ สำนักงบประมาณจะนำไปจัดสรรงบประมาณประจำปี ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินงาน นอกจากพื้นที่นี้ อพท. ยังอยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์ 5 ปี ให้กับพื้นที่พิเศษเดิมที่มีอยู่อีก 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่พิเศษฯ เมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง พื้นที่พิเศษฯ เมืองเก่าน่าน และพื้นที่พิเศษฯ เมืองโบราณอู่ทอง โดยจะเสนอคณะกรรมการ อพท. เพื่อเห็นชอบก่อนนำเสนอต่อที่ประชุม ท.ท.ช. และ ครม. ตามลำดับ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 65