สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และสภาความมั่นคงแหงชาติ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ขอให้ชาวอิสราเอลในต่างประเทศเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต จากการที่กลุ่มฮามาสปลุกระดมผู้สนับสนุนทั่วโลก ให้ร่วมกันจัดการชุมนุมต่อต้านอิสราเอล ในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. ซึ่งถือเป็น “วันแห่งความโกรธแค้น”
ฝ่ายความมั่นคงและข่าวกรองของอิสราเอลประเมินสถานการณ์ ว่าการประท้วงมีแนวโน้มลุกลามเป็นการใช้ความรุนแรง โดยเป้าหมายคือชาวอิสราเอลในประเทศนั้น รัฐบาลจึงขอให้ประชาชนตื่นตัว หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่จัดกิจกรรม และหมั่นติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐของประเทศที่อาศัยอยู่
ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งในอิสราเอลรายงาน เกี่ยวกับการที่รัฐบาลสั่งยกระดับ มาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลทั่วโลก พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นน่าจะยังคงรุนแรงที่สุด ในเมืองเยรูซาเลม เขตเวสต์แบงก์ และประเทศมุสลิมบางแห่ง
ทั้งนี้ สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนในอิสราเอลแล้วมากกว่า 1,300 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 3,400 คน ส่วนในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 6,000 คน
นอกจากนั้น มีรายงานสมาชิกฮามาสเสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,500 ราย แต่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวประกันไว้ระหว่าง 150-200 คน มีทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ.
เครดิตภาพ : AFP