ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์เลือดน้ำหอมของ ยูเวนตุส ยอดทีมแห่งศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ส่อแววจะโดนแบนยาว หลังผลตรวจตัวอย่างปัสสาวะรอบ 2 (แซมเปิล B) ยังคงออกมาเป็นบวกต่อสารกระตุ้นประเภทเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย)

ป็อกบา ไม่ผ่านตรวจโด๊ปจากเกม เซเรีย อา นัดเปิดฤดูกาลที่ ยูเวนตุส บุกไปชนะ อูดิเนเซ 3-0 เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของอิตาลี (นาโด) เผยว่า พบฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งร่างกายไม่ได้ผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ ตกค้างอยู่ในตัวอย่างปัสสาวะของ ดาวเตะวัย 30 ปี และมีคำสั่งให้แบนเจ้าตัวชั่วคราวเพื่อรอผลตรวจยืนยันจากแซมเปิล B

กระทั่งล่าสุด มีการยืนยันแล้วว่า ผลตรวจแซมเปิล B ซึ่งถูกส่งไปตรวจที่คลินิก อัคควา อเซโตซา ในกรุงโรม ยังคงออกมาเป็นบวก และทำให้ ป็อกบา จะต้องถูกไต่สวนโดยองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นต่อไปโดยมีเวลาเตรียมหลักฐานในการแก้ต่างให้ตัวเองเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

ขณะที่ตามกฏของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) นักเตะที่ลักลอบใช้สารกระตุ้นต้องห้ามมีโอกาสจะโดนลงโทษแบนยาวระหว่าง 2 ปี หรือ 4 ปี โดยขึ้นอยู่กับการยื่นอุทธรณ์ และการพิสูจน์ว่า เจ้าตัวเจตนาใช้สารกระตุ้นหรือไม่

นอกจากนี้ ป็อกบา ยังมีอีกหนึ่งตัวเลือกนั่นก็คือการยอมรับสารภาพเพื่อขอลดโทษ ซึ่งมีโอกาสจะทำให้ไม่ต้องรับโทษเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อาทิหากโดนแบน 2 ปี โทษก็อาจจะลดเหลือเพียงปีเดียว

ส่วน ยูเวนตุส ที่ใช้สิทธิจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำสุดราว 39,000 ยูโร (ราว 1.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ให้ ป็อกบา นับตั้งแต่ถูกแบนชั่วคราวจากการไม่ผ่านตรวจโด๊ป ก็มีสิทธิจะขอยกเลิกสัญญาของ ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ที่ยังเหลืออยู่จนถึงเดือนมิ.ย.ปี 2026 ได้ทันที หากสุดท้ายแล้วเจ้าตัวถูกตัดสินว่ามีความผิด และโดนแบนยาวจริง.

ภาพ AFP