เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ดร.วิษณุ เครืองาม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าร่างแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564-2570 และการรายงานผลการติดตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2563 รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) สำนักมาตรฐานและติดตามการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงภาวะสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19ที่ส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยที่จำเป็นต้องสร้างการบูรณากันทุกหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เลขาธิการสกศ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ดร.วิษณุได้มอบหมายให้ สกศ.ปรับยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยฉบับดังกล่าวให้มีความยืดหยุ่นและสอดรับผลกระทบโควิดเพื่อขจัดอุปสรรคต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยใช้กลไกขับเคลื่อนสำคัญภายใต้พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 ที่ต้องย้ำติดตามการดําเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติของหน่วยงานต้นสังกัดทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการดูแล พัฒนาและจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัย เพื่อสะท้อนปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดําเนินงานตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง   

“ที่ประชุมได้ได้มีข้อเสนอแนะให้ปรับตัวชี้วัดอย่างละเอียดในแต่ละยุทธศาสตร์ของการพัฒนาเด็กปฐมวัย  พร้อมกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบ มาตรการขับเคลื่อน และการติดตามประเมินผล เพื่อลดความซ้ำซ้อนการบริหารงาน เพราะการพัฒนาเด็กไม่ได้มีแค่พัฒนาการด้านสังคม อารมณ์ จิตใจ สติปัญญาเท่านั้น แต่ยังมีทักษะการบริหารจัดการตนเองขั้นสูง (Executive Functions : EF) ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องเพิ่มเสาหลักการพัฒนาตัวตนในเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นกระบวนการความคิดระดับสูงของสมองส่วนหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำของเด็กปฐมวัย ผนวกเข้ากับแผนการขับเคลื่อนต่อเนื่องกันทุกกระทรวงในสถานการณ์โควิด จะทำให้ไม่ขาดตอนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 และมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ.2561” ดร.อำนาจ กล่าว