มาแล้วค่า..พวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” มาแล้ว สัปดาห์นี้ก็จะพาทุกคนไปพูดถึงเรื่องราวที่เรียกว่าทุกคนต่างพากันชื่นชม และขอบคุณที่เห็นใจ “แฟนคลับ” มากๆ หลังจากที่ “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” หนึ่งในสมาชิกวง “GOT7” ได้ลุกขึ้นมาเป็น “กระบอกเสียงให้กับแฟนคลับ” เกี่ยวกับประเด็น “ราคาบัตรอัป” ที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ในประเทศไทยของเขาเอง จนทำให้ทุกคนต่างประทับใจในการใช้พื้นที่ และกระบอกเสียงที่ดังของเขา เป็นตัวแทนเรียกร้องแทนแฟนคลับ และแบมแบมนั้นก็แทบจะเป็นศิลปินคนแรกๆ ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่เรื่อง “ราคาบัตรอัพ การกดบัตรคอนเสิร์ตของแฟนๆ ในไทย” เป็นเรื่องราวที่มักจะเกิดขึ้น และถูก “หมักหมม และถูกหยั่งรากลึก” มานานหลายปี โดยที่ไม่มีใครเข้ามาจัดการ และไม่มี “ศิลปินคนไหนเคยออกมาพูด”
เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่แบมแบมได้ประกาศเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทย “2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52] in BANGKOK” ในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม โดยหลังจากประกาศเปิดจองบัตรปรากฏว่าเหล่า “อากาเซ่” (ชื่อเรียกแฟนคลับ) ทั้งหลายก็สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ได้ทันทีซึ่งหลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือเรื่อง “บัตรอัป” ซึ่งเป็นบัตรที่มีคนกดได้ในราคาปกติ และจะนำมาขายต่อใน “ราคามากกว่าค่าบัตรปกติ 2-3 เท่าตัว” ทำให้แฟนๆ หลายคนที่อยากเจอ และอยากจะร่วมสร้างความทรงจำกับศิลปินที่ตนเองชื่นชม และติดตามมาตลอด ต้องมาถูกเอาเปรียบในเรื่องนี้
งานนี้พอทราบถึงแบมแบม เจ้าตัวก็ได้ออกมาทวิตฟาดแบบแรงๆ ว่า “บัตรอัป ขอให้ทุกคนอย่าไป สนับสนุนเลยนะครับคนแบบนี้ น่ารังเกียจ สกปรก ที่สุดเอาความพยายาม ของคนอื่น ทำมาหากิน” ทำให้หลายคนชื่นชมแบมแบมที่ “เข้าใจแฟนๆ ที่อยากมาเจอเขาด้วยใจจริง” และกล้าจะออกมาพูดเรื่องนี้ แต่เรื่องยังไม่จบ เมื่อแบมแบมได้เพิ่มรอบการแสดง และเปิดขายบัตรอีกรอบ ก็กลับเจอปัญหาที่มีคน “กดบัตร VVIP อยู่ในมือหลายสิบใบ” และขายต่อในราคาที่สูงว่ามูลค่าหน้าบัตรหลายเท่าตัว จนทำให้แบมแบมต้องออกมาทวิตจี้ถามเว็บไซต์กดบัตรว่า “พวกที่กด VVIP ได้มาหลายใบ ควรเช็กนะครับ ผมว่ามีคนใน ระบบของคุณ แอบโกง“
จนเว็บไซต์ผู้ให้บริการกดบัตรได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า “ผู้กดบัตรโซน VVIP ได้เป็นจำนวนมาก และนำบัตรมาขายต่อในราคาที่สูงขึ้นกว่าราคาปกติ ทางบริษัทฯ ได้ตรวจสอบ และเห็นถึงความผิดปกติ เราจึงทำการเรียกบัตรโซน VVIP คืนเข้าสู่ระบบบางส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะแจ้งเวลาเปิดจำหน่ายให้ทราบอีกครั้ง”
เอาเป็นว่าเรื่องนี้หากแบมแบมจะนิ่งเฉย ไม่ต้องมาพูดถึง หรือใส่ใจเรื่องพวกนี้ก็ได้ เพราะเป็นเรื่องปัญหาที่เกิดมาจากระบบ และ “วัฒนธธรมการติ่งของบ้านเรา” ซึ่งไม่เกี่ยวเพอร์ฟอแมนการโชว์ของศิลปินเลย และอีกอย่างปัญหาพวกนี้ เป็น “ปัญหาที่หยั่งรากลึกมายาวนาน และไม่มีใครแก้ไขมันเลย” เพราะหากใครที่เป็นแฟนคลับศิลปินก็จะทราบดีว่าปัญหาพวกนี้จะเกิดขึ้น “แทบกับทุกคอนเสิร์ต” ซึ่งศิลปินก็น่าจะพอทราบเรื่องพวกนี้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ออกมาพูดถึงอะไร เพราะสุดท้ายเป็นเรื่องระบบที่ “คนทำควรจัดการ” แต่ในกรณีนี้แบมแบมเลือกที่ “ไม่นิ่งเฉย” เพื่อต้องการให้ “แฟนๆ ที่รัก และสนับสนุน” ในตัวเขา ไม่ถูกเอาเปรียบ และได้เข้ามารับชมโชว์คุณภาพที่เขาเตรียมมาเพื่อแฟนๆ อย่างสบายใจ
และนี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกครั้งที่แบมแบมพูดว่า “รักอากาเซ่” ไม่ใช่เพียงแค่ “ลมปาก” ที่พูดออกมาให้รู้สึกฟินเท่านั้น แต่เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจของเขาจริงๆ อย่างที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ “อากาเซ่” ซัพพอร์ต “GOT7” มาตลอดตั้งแต่ช่วงแรกที่วงเดบิ้วต์และไม่ได้ดังมาก แต่ด้วยพลังสนับสนุนของแฟนคลับ ส่งผลให้ GOT7 เป็นที่รู้จัก และได้รับความรักอย่างท่วมท้นจากแฟนคลับทั่วโลกมากมายมาโดยตลอด นี่คงเป็นสิ่งหนึ่งที่ตัวแบมแบมเองตั้งใจที่อยากจะลุกขึ้นมาเป็น “กระบอกเสียงที่ดัง” เพื่อแฟนคลับของเขา และตอบแทนความรักที่มีให้เสมอมา อย่างที่ใครหลายคนเคยบอกไว้ว่า “ไม่ต้องพูดคำว่ารักตลอดเวลา แต่แค่ทำให้รู้ว่ารักก็พอ”..
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”