ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Microsoft Teams ดำเนินโครงการ Microsoft Learn for Educators เพื่อเปิดโอกาสให้อาจารย์เข้าถึงสื่อการสอนของไมโครซอฟท์ และนำมาถ่ายทอดแก่นักศึกษา ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย กรรมการสภามช. ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามด้วย ทั้งนี้ทางไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักศึกษาภายใต้โครงการ Microsoft Learn for Educators ซึ่งเปิดโอกาสให้คณาจารย์เข้าถึงหลักสูตรและสื่อการสอนของไมโครซอฟท์ เพื่อนำมาถ่ายทอดให้นักศึกษา รวมถึงสนับสนุนการสอบใบรับรองของไมโครซอฟท์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับและจะช่วยเพิ่มช่องทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้นักศึกษาประสบผลสำเร็จในสาขาวิชาชีพที่สอดคล้องกับการรับรองของไมโครซอฟท์ จึงมั่นใจว่าการลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนานักศึกษา บุคลากร เพื่อให้มีความพร้อมด้านทักษะดิจิทัล ในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ เตรียมความพร้อมให้บุคลากรทุกกลุ่ม มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพในยุคดิจิทัล

ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย กรรมการสภา มช. กล่าวว่า เชื่อว่าอนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับการปฏิรูปการศึกษา โดยเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อนักศึกษาและคณาจารย์ และขอชื่นชม มช. ที่มีเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับวิชาการแขนงต่างๆ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและนักศึกษาให้มีทักษะดิจิทัลในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้มีความสามารถ มีทักษะที่พร้อมสำหรับการทำงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่สำคัญ ที่บริษัทไอทีชั้นนำระดับโลกอย่างไมโครซอฟท์ จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ บุคลากร เครื่องมือและเทคโนโลยี แก่มช. เพื่อยกระดับการพัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการศึกษา วิจัย และบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยให้ก้าวทันมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะดิจิทัลให้กับคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาของมช. เพื่อให้เป็นบุคคลากรที่มีความพร้อมทางทักษะสำหรับอนาคต ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการร่วมกันพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบนพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต