ผู้เคราะห์ร้ายของเหตุการณ์นี้ซึ่งระบุเพียงชื่อสมมติว่า นางเลี่ย วัย 52 ปี โดนแก๊งมิฉาชีพใช้โปรแกรมมัลแวร์โอนถ่ายเงินในบัญชีธนาคารของเธอทั้ง 2 บัญชีผ่านทางโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ของเธอไปจนหมดเกลี้ยง

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2566 นางเลี่ยบังเอิญเปิดเจอโฆษณาบนเฟซบุ๊กของบริษัท จีดี ทราเวล แอนด์ ทัวร์’ เสนอขายทัวร์พาชิมทุเรียนในราคา 28 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,020 บาท) ที่เมืองกุไล รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย 

คุณป้าเลี่ยเกิดความสนใจ จึงติดต่อไปยังฝ่ายขายของบริษัทในโฆษณา ซึ่งเธอให้ข้อมูลว่าพูดจาดี ดูจริงใจมาก

ต่อมา ฝ่ายขายของบริษัททัวร์บอกให้คุณป้าเลี่ยเปลี่ยนไปใช้ช่องทางติดต่อแอปพลิเคชัน วอทส์แอพ ซึ่งมีการส่งข้อความเสียงมาแนะนำวิธีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันภายนอกอีกแอปหนึ่งมาให้ โดยดาวน์โหลดผ่านช่องทางชื่อว่า ‘อีจีสโตร์’ เพื่อใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ของเธอ 

คุณป้าเลี่ยทำตามขั้นตอนที่แก๊งมิจฉาชีพบอก แต่สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ซื้อทัวร์ชิมทุเรียนเพราะเพื่อนของเธอไม่ยอมไปด้วย นอกจากนี้เธอยังบอกว่าเธอไม่ได้เปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับบัญชีธนาคารหรือที่อยู่ของเธอเลย ในระหว่างที่ติดต่อกับฝ่ายขายของบริษัท

ในสัปดาห์ต่อมา คุณป้าเลี่ยก็พบว่าเธอเข้าใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของเธอไม่ได้ ลูกชายของเธอจึงช่วยติดต่อไปยังธนาคารดีบีเอสซึ่งเธอเปิดบัญชีไว้ ผลปรากฏว่า บัญชีธนาคารของเธอโดนปิดกั้นไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2566 เนื่องจากมีกิจกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งก็คือการโอนถ่ายเงินจำนวนมากเป็นหน่วยเงินดอลลาร์สหรัฐ

จากการสืบสวนพบว่า แก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินได้ทำการโอนถ่ายเงินจากบัญชีทั้งสองบัญชีของเธอไปมากกว่า 81,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.97 ล้านบาท ส่งไปยังบัญชีบุคคลอื่นจำนวน 5 บัญชีด้วยกัน 

คุณป้าเลี่ยให้ข้อมูลว่า เงินจำนวนดังกล่าวคือเงินเก็บที่เธอสะสมมาเป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณของเธอและค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานของลูกชายของเธอในปีหน้า

คุณป้าเลี่ยเสียใจมาก เธอกล่าวว่าตนร้องไห้ทุกวันจนนอนไม่หลับ และตอนนี้ได้ลบแอฟพลิเคชันธนาคารต่าง ๆ ออกจากโทรศัพท์มือถือของเธอจนหมดสิ้น เพราะเธอกลัวมากว่าจะโดนหลอกแบบเดียวกันนี้อีก

ต่อมาเธอได้ติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือติดตามเงินที่โดนขโมยไป นอกจากนี้เธอยังแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางการก็กำลังดำเนินการสืบสวนตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา

คุณป้าตั้งข้อสงสัยว่า ระหว่างที่เงินโดนขโมยด้วยการโอนออกจากบัญชี เธอกลับไม่ได้รับอีเมลแจ้งยอดหรือข้อความส่งรหัสแบบใช้เพียงครั้งเดียว (OTP) เพื่อยืนยันตัวตนผู้ทำรายการจากธนาคารเลย ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ตรวจสอบบัญชีของเธอ ก็คงไม่รู้ตัวว่า มีคนขโมยเงินของเธอไปจนหมดบัญชีแล้ว

ด้านธนาคารดีบีเอสนั้น แนะนำเพียงว่า ผู้เสียหายควรติดต่อแผนกสายด่วนรับเรื่องฉ้อโกงออนไลน์ และเน้นย้ำว่าธนาคารได้ปิดกั้นการเบิกถอนเป็นการชั่วคราวหลังจากพบความผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมป้องกันมัลแวร์เพื่อความปลอดภัยของบัญชีของลูกค้าด้วย

ขณะนี้ สิงคโปร์กำลังเผชิญปัญหาการหลอกลวงออนไลน์โดยใช้วิธีหลอกล่อให้เหยื่อดาวน์โหลดโปรแกรมที่ฝังมัลแวร์ไว้ลงไปในโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ จากนั้น แก๊งมิจฉาชีพก็จะใช้โปรแกรมมัลแวร์ดังกล่าวเป็นเครื่องมือควบคุมการเปิดใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของเหยื่อจากระยะไกล ซึ่งทำให้สามารถโอนถ่ายเงินจากบัญชีธนาคารผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้

ที่มา :  nextshark.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES