ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการ “สมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0” ของ สภ.เมืองระยอง มี พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย รอง ผวจ.ระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ นอภ.เมืองระยอง พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรโยธิน ผกก.สภ.เมืองระยอง ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปโครงการให้รับทราบ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมชมผลการดำเนินการโครงการ “สมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0” ในชุมชน และมอบอุปกรณ์และเจลแอลกอฮอล์ ป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนในพื้นที่

พล.ต.ต.มานะ เปิดเผยว่า สภ.เมืองระยอง เป็น สภ. 1 ใน 15 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้นำโครงการดังกล่าวมาใช้ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะสุดล้ำ และการร่วมมือภาคประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน ซึ่งดูแลครอบคลุมพื้นที่ 4.4 ตารางกิโลเมตร เขตพื้นที่เทศบาลนครระยอง เทศบาลตำบลเนินพระ และเทศบาลตำบลเชิงเนิน ประชากร 8,053 ครัวเรือน โดยการนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันอาชญากรรม ประกอบด้วย 1.การติดตั้งระบบกล้อง CCTV จำนวน 130 ตัว ในจุดที่สำคัญ ซึ่งมีทั้งกล้องวิเคราะห์ทะเบียนรถและจดจำใบหน้าคนอย่างชัดเจน และห้องควบคุม CCOC กล้องวงจรปิดที่ใช้ในงานสืบสวน จราจรและสายตรวจ 24 ชม. 2.ตู้แดง 4.0 3.แอพพลิเคชั่น police I lert u 4.โครงการฝากบ้านกับตำรวจ 4.0 5.ติดตั้งระบบ GPS ในรถสายตรวจ 6.ระบบแจ้งเอกสารหายออนไลน์ 7.การสร้าง Line official account ของโครงการ 8.การใช้ระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ และ 9.เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 เป็นโครงการที่ ผบ.ตร.ริเริ่ม เป็นการโครงการที่นำการทำงานรูปแบบใหม่ของตำรวจ คือการทำงานเชิงรุก การป้องกันนำการปราบปรามเหตุ ซึ่งโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ต่อยอดมาจากโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ เพื่อให้เป็นเมืองอัจฉริยะโดยมีการนำร่อง 15 สถานีตำรวจในเมืองหลักที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อเปิดประเทศในระยะอันใกล้ และรองรับนักท่องเที่ยว นักลงทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อประเทศไทย หลังจาก 1 ต.ค.นี้เป็นต้น ผบ.ตร.มีนโยบายจะขยายเพิ่ม 1 จังหวัด 1 โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซนทั่วทั้งประเทศ เมื่อทำโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 เสร็จแล้ว ทุกภาคส่วน และประชาชนในชุมชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุ เพื่อให้การป้องกันเหตุได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกำชับเน้นให้การมีหุ้นส่วน หรือส่วนร่วมของภาคประชาชน และการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน รวมทั้งการทำงานเชิงรุกเน้นการทำงานเน้นการป้องกันนำการปราบปรามด้วย.