กลุ่มสื่อสารองค์กร กรมท่าอากาศยาน (ทย.) แจ้งว่า ทย. จะดำเนินการตามแนวทางการมอบความรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ใน 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ท่าอากาศยานอุดรธานี กระบี่ และบุรีรัมย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสาร ทั้งต่างประเทศและในประเทศ 

รวมถึงการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินได้อย่างคล่องตัว ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวเป็นการดำเนินงานเพื่อร่วมกันพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานที่มีอยู่ของ ทย. ซึ่งเป็นท่าอากาศยานของภาครัฐ ให้มีความสามารถในการจัดหารายได้ให้มากขึ้น โดยที่ ทย. ยังได้รับเงินชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปจากการมอบความรับผิดชอบดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ทย. จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารงานที่คล่องตัว ของ ทอท. ด้วย ซึ่งรายได้ชดเชยดังกล่าวทย. จะนำไปบริหารจัดการท่าอากาศยานที่เหลืออยู่ เพื่อลดการใช้เงินงบประมาณของภาครัฐในการดำเนินงานอย่างไรก็ตามการมอบความรับผิดชอบในบริหารจัดการดังกล่าว ไม่ได้มีการโอนทรัพย์สินของรัฐไปให้กับทาง ทอท. แต่อย่างใด แต่เป็นการมอบความรับผิดชอบในการบริหารจัดการผ่านสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ 

ส่วนรายได้ของ ทย. ที่หายไป ทาง ทอท. ก็มีการชดเชยให้ เหมือนในขณะที่ ทย. บริหารจัดการเอง โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมากำหนดรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งประเทศจะได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรรัฐร่วมกันระหว่างทย. และ ทอท. ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสาร รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบินเพิ่มมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศในอนาคต 

อย่างไรก็ตาม ทย. ยังคงมีภารกิจในการพัฒนาและจัดสร้างสนามบินแห่งใหม่ เพื่อรองรับการเดินทางและการขนส่งทางอากาศของประเทศในอนาคต อาทิเช่น มุกดาหาร บึงกาฬ เป็นต้น ดังนั้นแนวทางการมอบความรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยาน ให้ ทอท. จะทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณในการลงทุน 

เนื่องจาก ทาง ทอท. จะเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการแทน ภายใต้ข้อกำหนดและกรอบระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน อีกทั้งยังเป็นการขานรับนโยบายรัฐบาล ในการกำหนดยุทธศาสตร์ท่าอากาศยานของประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ด้วยการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการ และใช้ทรัพยากรท่าอากาศยานของภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย.