ทางกระทรวงพลังงาน ได้ไขความกระจ่างว่า รถยนต์ไฟฟ้าอีวี จะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Ingress Protection (IP) ที่ถูกสร้างขึ้นโดย International Electro-technical Commission (IEC) อยู่ที่ระดับ IP67 ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันนํ้าเข้า นํ้ารั่วซึม และรวมไปถึงการกันฝุ่นของเครื่องยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้า จึงมีความสามารถ
ขับลุยนํ้าและขับในขณะที่นํ้าท่วมได้

แต่ข้อควรระวัง แม้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะได้มาตรฐานกันนํ้า IP67 แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงถนนที่มีนํ้าท่วมขัง ถ้าจำเป็นต้องผ่าน ควรดูระดับนํ้า ซึ่งไม่ควรสูงกว่าฟุตปาธ ระหว่างขับผ่าน ควรใช้ความเร็วตํ่า ปิดแอร์ระหว่างขับผ่านช่วงที่มีนํ้าขัง เมื่อขับพ้นพื้นที่นํ้าท่วมขังแล้วควรจอดดูว่ามีเศษขยะ ใบไม้ติดหน้ารถหรือไม่ เมื่อใกล้ถึงบ้าน ก่อนจอดควรเหยียบเบรกสลับเดินหน้าช้า ๆ เพื่อไล่นํ้าออกจากเบรก แม้แท่นชาร์จจะมีระบบป้องกันไฟรั่วและสายดินแต่ไม่ควรเสียบสายชาร์จขณะตัวเปียกหรือพื้นมีนํ้าท่วมขัง

เมื่อพูดถึงอีวีแล้วอยากเสริมเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า หรืออีวี ชาร์จเจอร์ ในสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงยังสามารถติดตั้งเพื่อใช้เองภายในบ้านได้ด้วย โดยจะมาให้ความแตกต่างของการชาร์จแบบปกติ (Normal Charge) และการชาร์จเร็ว (Fast Charge) เริ่มจากการชาร์จปกติ หรือ Normal Charge เป็นการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 220V โดยการชาร์จแบบนี้ ไฟจะวิ่งผ่าน On Board Charger ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อแปลงกระแสไฟจากกระแสสลับไปเป็นกระแสตรงแล้วชาร์จเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ สามารถใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น รวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด การชาร์จแบบ AC นั้นเหมาะกับการชาร์จเอาไว้ข้ามคืนหลังจากผู้ขับขี่กลับบ้าน เพราะสามารถชาร์จจากไฟบ้านปกติได้โดยตรงเลย เนื่องจากเป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับแบบไฟฟ้าภายในบ้านจึงมีอัตราค่าไฟถูกกว่า

การชาร์จเร็ว หรือ Fast Charge เป็นการใช้ไฟฟ้าแบบกระแสตรง DC โดยชาร์จผ่านสถานีเท่านั้น เป็นการชาร์จแบบด่วน ใช้เวลาน้อย แต่จะชาร์จได้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% เท่านั้น เป็นชาร์จ DC จะชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ภายในรถโดยตรง ไม่ต้องผ่าน On Board Charger จึงเหมาะกับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาในการชาร์จน้อย จึงเหมาะกับสถานีที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือปั๊มนํ้ามัน หรือสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เนื่องจากเป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง จึงมีอัตราค่าไฟสูงกว่า.