ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า ในปีงบประมาณ 63-64 ทช. ได้ดำเนินการติดตั้งด่านชั่งน้ำหนักกึ่งถาวร (WIM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกบนถนนทางหลวงชนบท เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดระหว่างคัดกรองรถบรรทุกก่อนเข้าด่านชั่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน สามารถวางแผนและเก็บข้อมูลรถบรรทุก ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์งานซ่อมบำรุงทางให้เกิดประสิทธิผลในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น จำนวน 5 สายทาง ดังนี้
1.ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี, กรุงเทพฯ 2.ถนนทางหลวงชนบทสาย นม.1111 สาย ฉ ผังเมืองรวมเมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา 3.ถนนทางหลวงชนบทสาย รย.2015 แยก ทล.36-บ้านภูไทร อ.นิคมพัฒนา และ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 4.ถนนทางหลวงชนบทสาย รบ.4013 แยก ทล.3206-บ้านทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และ 5.ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.5023 สาย จ.3 ผังเมืองรวมเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ทช. มีแผนที่จะติดตั้งด่านชั่งน้ำหนักกึ่งถาวร (WIM) ในสายทางที่คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรของรถบรรทุกสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่อไป
สำนักบำรุงทางรายงานว่า ปัจจุบัน ทช. ได้จัดตั้งด่านชั่งน้ำหนัก เพื่อตรวจสอบและควบคุมน้ำหนักของรถบรรทุกไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยแบ่งประเภทการจัดตั้งด่านชั่งน้ำหนัก ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ด่านชั่งน้ำหนักแบบถาวร (Weigh Station) เป็นด่านชั่งน้ำหนักที่ได้ติดตั้งเครื่องชั่งแบบสถิต และด่านชั่งน้ำหนักกึ่งถาวร (Weigh in Motion, WIM) ไว้ในด่านชั่งเดียวกัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าคอยปฏิบัติงานอยู่ตลอด 24 ชม. โดยจะก่อสร้างบนทางหลวงชนบทหลักที่มีปริมาณการจราจรของรถบรรทุกสูง
ปัจจุบัน ทช. มีด่านชั่งน้ำหนักแบบถาวร จำนวน 5 แห่ง ด่านชั่งน้ำหนักกึ่งถาวร (WIM) เป็นด่านชั่งน้ำหนักที่จัดเตรียมช่องจราจรพิเศษไว้ เพื่อติดตั้งเครื่องมือชั่งน้ำหนักแบบเคลื่อนที่ (Spot Check) ในช่องจราจรที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการจัดการรถบรรทุกเข้าชั่งน้ำหนักมีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) เป็นด่านชั่งที่จะติดตั้งบนสายทางที่มีปริมาณจราจรของรถบรรทุกไม่สูงมาก โดยเจ้าหน้าที่จะทำการนำเครื่องมือชั่งน้ำหนักเข้าปฏิบัติงาน เพื่อที่จะสุ่มตรวจสอบรถบรรทุกบนสายทางที่อาจจะหลบเลี่ยงจากเส้นทางหลักที่มีด่านตรวจชั่งน้ำหนักแบบถาวรและแบบกึ่งถาวร
ทั้งนี้ดำเนินการดังกล่าวนี้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงคมนาคมและ ทช. สอดรับกับนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการป้องกันการชำรุดของพื้นผิวถนนในระยะยาว ภายใต้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการควบคุมน้ำหนักบรรทุก ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 61 ประกอบบทลงโทษ มาตรา 73/2 และมาตรา 23 (2) ประกอบบทลงโทษ มาตรา 70 รวมถึง ตามประกาศเรื่องห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหาย เดินบนทางหลวงชนบทในเขตความรับผิดชอบของ ทช.