เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ร่วมกับ มรภ.อุดรธานี จัดงานประชุมวิชาการ “พลิกโฉมโรงเรียนสร้างต้นแบบนวัตกรรมครู สู่นวัตกรรมนักเรียน” เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยรูปแบบ Active Learning สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ.ในสถานศึกษาจังหวัดอุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ที่ส่งผลต่อนวัตกรรมของผู้เรียน และเพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสพฐ.

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เราต้องการปฏิรูปการเรียนรู้ใหม่ให้ถึงสมรรถนะ โดยปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพ.ศ. 2551 เป็นหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพ.ศ.2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 เป็นการต่อยอดจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ในการคิด ในการแก้ปัญหา ในการใช้ทักษะชีวิต และในการใช้ เทคโนโลยี จากนั้นก็มีการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนให้ถึงสมรรถนะด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งการจัดการเรียนการสอนด้วย Active Learning คือ ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน จึงทำให้เกิดการพัฒนาครู เพื่อไปปรับปรุงการเรียนการสอนจนเกิดเป็นนวัตกรรม นวัตกร โดยผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps

เลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อไปว่า สพฐ.จัดการเรียนการสอนด้วย Active Learning ทุกภูมิภาค ก็เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอนใหม่ทั้งระบบในโรงเรียน ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นโรงเรียนคุณภาพในเรื่องการจัดการเรียนการสอน สอดคล้องกับนโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เพราะโรงเรียนคุณภาพมีองค์ประกอบหลายด้าน ทั้งอาคาร สถานที่ ห้องเรียน ครุภัณฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอน สื่อ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงกระบวนการจัดการเรียนการสอน ซึ่งกระบวนการ GPAS 5 Steps สามารถตอบโจทย์ได้ และสุดท้ายคือ ครูต้องมีศักยภาพและสมรรถนะ ทั้งนี้เพื่อให้โรงเรียนทั้งประเทศมีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน แต่เนื่องจากเรามีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ จึงไม่สามารถทำให้เกิดพร้อมกันได้ทั้งประเทศ เพราะต้องใช้งบฯจำนวนมาก จึงต้องเริ่มขยับที่ระดับอำเภอก่อน โดยมีข้อแม้ว่าเด็กโรงเรียนอื่นๆ ต้องสามารถเข้าไปใช้ทรัพยากรแหล่งเรียนรู้ร่วมกันได้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะเด็กที่อยู่ในโรงเรียนนั้นเท่านั้น

ดร.เอกราช ดีนาง รองอธิการบดีมรภ.อุดรธานี กล่าวว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้ เป็นโครงการต่อเนื่องในการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบตามโครงการ การพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยรูปแบบ Active Learning สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสพฐ. โดยมีครูเข้าร่วมอบรมในโครงการกว่า 3,000 คน และได้รับคัดเลือกมาเป็นครูต้นแบบจำนวน 316 คน และในครั้งนี้ มีโรงเรียนต้นแบบในพื้นที่เข้าร่วมประชุม จำนวน 18 โรงเรียน และโรงเรียนเครือข่ายจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ จำนวน 10 โรงเรียน ใน 10 จังหวัด มานำเสนอผลงานนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูและนวัตกรรมนักเรียน