4 นโยบายเร่งด่วนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนที่ 30 แถลงต่อรัฐสภา คือ 1.พักชำระหนี้เกษตรกร 2.ลดค่าไฟ น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ปรับโครงสร้างพลังงาน 3.เพิ่มรายได้การท่องเที่ยว ยกเว้นค่าวีซ่ากลุ่มเป้าหมาย 4.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบกติการรัฐธรรมนูญโดยไม่แก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ ฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เข้มแข็ง

ด้านอื่น ๆ เช่น จะร่วมกันพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพ เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ลดกำลังพลนายทหารสัญญาบัตร ลดกำลังกอ.รมน.ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างให้โปร่งใส ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ยกระดับ 30 บาทรักษาโรค ฟื้นผู้ว่าฯ ซีอีโอ ปฏิรูปการศึกษา ผลักดันกฎหมาย LGBTQ แก้ระเบียบสุราเสรี และ นโยบายโบว์แดง แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่ง นายเศรษฐา แถลงว่า จำเป็น เพราะเศรษฐกิจไทยเหมือนคนป่วยเสี่ยงต่อการถดถอย ต้องกระตุ้นการใช้จ่าย ผ่านนโยบายดิจิทัล 1 หมื่นบาทอย่างทั่วถึง กระจายทุกพื้นที่ จุดชนวนกระตุกเศรษฐกิจให้ตื่นอีกครั้งและหลายรอบ วางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของชาติ

เป็นการเริ่มงานการเมืองของนายเศรษฐาเป็นทางการ เพียงแต่แถลงนโยบายไม่มีการลงมติ จึงไม่มีอะไรหนักหนา ยังเป็นการเผชิญหน้าระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล หลังก้าวไกลถูกหักหลังจนต้องเป็นฝ่ายค้าน

ในด้านตัวบุคคล นายเศรษฐา แม้จะมือใหม่หัดขับ ก็ถือว่า สอบผ่าน ทั้งลีลาท่าทาง การรับฟัง การลุกขึ้นชี้แจง ทำได้ดีพอควร มีความนิ่ง มีวุฒิภาวะ ไม่ปรี๊ดแตกง่าย เมื่อเทียบกับผู้นำก่อนหน้า อาจเพราะมีภาพหลุดโยนปากกาทำให้ถูกวิจารณ์ก่อนหน้า ทำให้นายเศรษฐาขอโทษและรับปากจะปรับปรุงตัว ก็ขอให้กำลังใจนายกฯ ให้วางตัวดี เหมาะสม ตลอดรอดฝั่ง บุคคลสาธารณะ เช่น นายกฯ ทุกย่างก้าวจะถูกจับตามอง แค่ก้าวผิดขั้นบันได ยังเป็นข่าวเลย

กลับมาที่ภาพรวม อาจเพราะถูกตรึงด้วยวาทกรรม “ตระบัดสัตย์” จับมือ 2 ลุงตั้งรัฐบาลกลายเป็นจุดอ่อนที่พรรคเพื่อไทยถูกจับผิดเรื่อง “คำพูด” นับจากนั้น นโยบายที่แถลง จึงแทบไม่ผูกมัดอะไรเลย พูดแบบเห็นใจ นี่ไม่ใช่ DNA เพื่อไทย ที่พูดแล้วทำ การข้ามขั้วเสียหายมากจนไม่รู้ “เพื่อไทย” จะกู้ศรัทธาคืนมาได้เมื่อไหร่

14 หน้ากระดาษที่บรรจุคำแถลงต่อรัฐสภา เน้นนโยบายเพื่อไทยเป็นหลัก แต่ก็เป็นอย่างที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล อภิปรายไว้ หลงทาง ว่างเปล่า เบาหวิว ขาดรายละเอียด ความชัดเจนของเป้าหมาย ยกตัวอย่าง เช่น หาเสียงพักหนี้เกษตรกร 3 ปี แต่ในคำแถลงกลับบอกจะพักหนี้ตามความเหมาะสม ค่าแรง 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท กลายเป็นค่าแรงและเงินเดือนที่เป็นธรรม เป็นต้น ที่ “แซะ” ได้เจ็บปวดคือ หากเป็นซีอีโอของบริษัทพูดชักชวนนักลงทุนแบบนี้ จะฟังต่อหรือลุกหนี ก็เป็นธรรมดา พรรคก้าวไกลถูกกระทำสาหัสแทบไม่มีที่ยืน

แต่ยังไงก็ขอให้เป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ อย่าเป็นฝ่ายแค้น แม้สมควรจะแค้น แต่จงเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานหนัก รักษามาตรฐานที่สร้างชื่อจนระบือนาม เช่นที่ผ่านมา

ขณะ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิญญาณฝ่ายค้านคืนร่าง อ่านนโยบายทุกตัวอักษร พบ 10 นโยบาย “นินจา” ที่หายไป เช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, เลือกตั้งผู้ว่าฯจังหวัดที่พร้อม, เงินดิจิทัล 5.6 แสนล้าน แต่งบฯ ปี 67 เหลือแค่ 2 แสนล้าน เอาทั้งหนูและงูเห่า แค่วาทกรรมหาเสียง…เป็นนโยบายการละคร

สรุป พรรคประชาธิปัตย์ยังประดิษฐ์วาทกรรมได้ยอดเยี่ยมตามเดิม

แต่เหนืออื่นใด ทุกคนย่อมเห็นจริงว่า โรดแม็ป หลวมโพรก อะไรก็บอก ต้องอยู่กับความจริง แต่ความจริงที่ต้องปฏิรูปโครง สร้างการเมือง ตำรวจ ทหาร องค์กรอิสระ งานยุติธรรม กลับไม่เห็นในคำแถลงแม้แต่น้อย แม้จนเกิดเรื่องประจานโครงสร้างราชการที่เน่าเฟะ “กำนันนก” กลับมีแต่เล่นคำ จะแก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนร่วมออกแบบ ซึ่งคืออะไรก็ไม่รู้ ทำไมไม่ระบุจะให้เลือกตั้ง ส.ส.ร. เพื่อร่าง รธน.ฉบับใหม่ให้ชัดเจน

ไม่เอาคำปฏิรูปกองทัพ แต่จะลดงบฯ ซื้ออาวุธอย่างเป็นขั้นตอนบ้างมั้ย เงินดิจิทัล 1 หมื่น ไม่กู้เพิ่ม ไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ ไม่ยุ่งกับทุนสำรอง แต่ตกลงจะเอาเงินจากไหน บอกสิ กัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพ สุขภาพของใคร

ไม่ได้มองแง่ร้าย แต่โรดแม็ปอย่างนี้ ไม่ได้สร้างความหวังให้ประเทศชาติเลย

——————
ดาวประกายพรึก