บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย.64 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ จากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน น้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนไอดา ทำให้ปรับขึ้นแดนบวกในช่วงแรก แต่ก็ไม่สามารถพยุงดัชนีได้หลังเผชิญกับการขายออกต่อเนื่องของหุ้นเดลต้า และในภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด หรือ 0.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84,176.04 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 552.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ 0.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,090.91ล้านบาท
รายงานข่าวจาก บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามระยะนี้คือ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ยอดค้าปลีกสหรัฐที่คาดว่าลดลง 0.8% จากเดือนก่อน รวมไปถึงสถานการณ์ในประเทศโดยเฉพาะเรื่องไวรัสโควิด-19 ที่ตัวเลขการติดเชื้อรายวันยังไม่เร่งตัวขึ้นแม้เปิดเมืองมาแล้ว ซึ่งหากระหว่างสัปดาห์เห็นการติดเชื้อที่ทำจุดต่ำสุดใหม่ จะยิ่งเป็นผลดีกับตลาดมากขึ้น และอาจมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากภาครัฐตามมา อาทิ ลดเวลาเคอร์ฟิว, ขยายระยะเวลาเปิดศูนย์การค้า ส่งผลให้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้อยู่ที่ที่ 1,625–1,650 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.เดลต้า ปิดที่ 582.00 บาท ลดลง -70.00 บาท
2.ปตท. ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
3.อินทัช ปิดที่ 77.75 บาท ลดลง -4.75 บาท
4.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.เอโอที ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
