“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก จะพบ อิรัก อันดับ 70 ของโลก ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในวันที่ 10 ก.ย. 66 เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และ AIS PLAY
รอบรองชนะเลิศ ไทย ชนะ เลบานอน 2-1 “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา โขกประตูชัยท้ายเกม ส่วน อิรัก ชนะจุดโทษ อินเดีย หลังเสมอในเวลาปกติ 2-2
ช้างศึก เคยพบกับ อิรัก มาแล้ว ในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2007 โดยเอาชนะไปได้ 1-0 ก่อนเตรียมโคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง ในเกมชิงดำ รอบ 16 ปี โดย ทีมชาติไทย ลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่ 16 ส่วน อิรัก ลุ้นคว้าแชมป์รายการนี้ ครั้งแรก
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไป 16 ปี จะกลับมาพบกันอีกครั้ง ในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นเกมที่ยากกว่า เลบานอน เพราะ อิรัก เป็นทีมชั้นนำ อยู่ในอันดับ 7 ของเอเชีย, อันดับ 70 ของโลก ซึ่งสูงกว่าไทยถึง 43 อันดับ และยังเต็มไปด้วยนักเตะที่เล่นอยู่ในยุโรปเกือบครึ่งทีม แน่นอนว่าไทยอาจจะเป็นรอง แต่พร้อมสู้เต็มที่ โดยเฉพาะการลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล
“บรรยากาศในทีมตอนนี้ดีมาก และทุกคนดูมั่นใจมากขึ้น เท่าที่คุยกับทีมโค้ชมาโน เราต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายนักเตะกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าเกมที่ชนะ เลบานอน เราใช้พละกำลังไปเยอะ และมีเวลาพักไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อถึงวันที่ 10 นี้ ทุกคนจะพร้อมเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องขวัญกำลังใจ เราจะทำให้ดี่สุด คว้าแชมป์สมัยที่ 16 มาครองให้ได้ และ แป้ง อยากเห็นภาพแฟนบอลเต็มสนาม เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วย” มาดามแป้ง ปิดท้าย