เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ บรรยากาศพิธีสวดอภิธรรมศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ที่จัดขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยมีได้มีเพื่อนในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการตำรวจทางหลวงและเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารมาร่วมแสดงความเสียใจ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่อยู่ในวงรับประทานอาหารในวันเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนที่ถูกสอบด้วย ตำรวจก็มีสิทธิที่จะไปไหนมาไหนได้ แต่ต้องดูด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ส่วนจะเข้าข่ายความผิด ม.157 หรือไม่ จากการที่ได้ซักถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่อยู่ในงานวันเกิดเหตุเบื้องต้นขณะเกิดเหตุทุกคนอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ และก็สิ่งหนึ่งที่เขาคิดในขณะนั้นคือต้องการนำตัวผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ก็เลยไม่ได้อยู่ตรงนั้น ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจับคนร้าย แต่พอเกิดเหตุเลยรีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตไว้ ส่วนเรื่องการปล่อยพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดการทำลายพยานหลักฐานขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนอีกที

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงว่าตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์มีส่วนในการช่วยทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ ตรงนี้เรายังไม่ได้ไปดู เราให้ความสำคัญกับตัวคนร้ายก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องนี้มีคณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ดูแลอยู่แล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงว่ามีเรื่องส่วยรถบรรทุกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น จากข้อมูลที่ตนไปนั่งสอบตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีเรื่องของส่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของคนที่มีอำนาจมีบารมีขอตำแหน่งในการโยกย้ายญาติตัวเองแล้วไม่ได้ก็เกิดอารมณ์ แล้วก็มีเรื่องของการดื่มสุราและเกิดปะทะคารมกัน ซึ่งตนมองว่าวุฒิภาวะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จริงๆ มีการขอโทษขออภัยกันแล้วเรื่องก็น่าจะจบ ส่วนเรื่องการขอโยกย้ายตำแหน่ง ยืนยันว่ายังไม่มีการตกลงกันก่อนหน้านั้น เป็นการขอในวันเกิดเหตุแต่ผู้ตายได้บอกไปว่าให้เป็นไปตามขั้นตอนและต้องรอให้ถึงวาระ ทำให้เกิดอารมณ์เพราะขอไม่ได้ เคยทำอะไรคนอื่นยอมหมด วันนี้ขอไม่ได้เลยเกิดอารมณ์

“ตำรวจมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีอำนาจหน้าที่ การทำงานให้พี่น้องประชาชนก็เรื่องนึง การที่จะต้องไปเจอปัญหาและผู้มีอิทธิพลก็เรื่องนึง ตนเป็นผู้บังคับบัญชากองบังคับการตำรวจทางหลวง ตนต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้หน่วยงานให้เดินหน้าต่อไปและก็ให้คนที่ถูกกระทำได้รับความเป็นธรรม วันนี้การทำงานของเราอาจจะเสี่ยงภัย แต่เราจะไม่ยอมให้คนที่กระทำความผิดลอยนวล” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว