จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ก่อนเหตุบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี กวาดทองรูปพรรณกว่า 30 บาท แต่ระหว่างหลบหนีถูกพลเมืองดีขัดขาจนล้มลง สุดท้ายไม่รอดโดนจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมสารภาพที่ก่อเหตุเพราะลงทุนขายสินค้าทางออนไลน์แล้วถูกโกงจนเป็นหนี้กว่า 50,000 บาท ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
เอาผิด2ข้อหานร.สาวชิงทอง แฉเปลี่ยนชุดในห้างก่อนลงมือ จ่อส่งฟ้องวันนี้
ชาวเน็ตคาใจลงทุนออนไลน์ ต้นเหตุทำ นร.สาวม.6 สิ้นคิดจี้ชิงทอง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ก.ย. พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเพิ่มเติม มีข้อเท็จจริงว่า น.ส.เอ เอาเงินประกันที่พ่อน้องเสียชีวิตจำนวน 50,000 บาท ไปลงทุนทางออนไลน์ เป็นการเล่นแชร์แบบออมเงิน ลงทุนไป 50,000 บาท ฝากไว้ก็จะได้ดอกเบี้ย 6,000 บาท ตอนแรกผลจากการลงทุนก็ได้ดีได้มาตลอด แต่หลังๆ น้องถูกโกงเงินจำนวนนี้ไป รวมทั้งแม่น้องได้สอบถามเรื่องเงินจำนวนนี้ น้องจึงหมดหนทาง เลยตัดสินใจชิงทอง เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ไปใส่ในบัญชีและให้แม่ดู
พ.ต.อ.เมษนนท์ กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมเชื่อว่า น้องคิดมาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งทางเราให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา น้องไม่มีพฤติกรรมอะไรเลย ไม่ร้องไห้ ไม่พูด และเงียบ ตอนนี้ยายทวดน้องเข้ามาดูแลอยู่ เพราะแม่น้องติดโควิดอยู่ในจังหวัดอื่น ตนไม่แน่ใจว่าทางครอบครัวน้องเป็นอย่างไร วันนี้จะไปศาลเยาวชน และพาน้องไปสถานพินิจ บ้านปรานี ที่ จ.นครปฐม ตอนนี้กำลังทำเรื่องประกันตัวน้อง เพื่อที่จะให้น้องออกมาได้ เพราะน้องเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว ทางเราก็จะช่วยในเรื่องการเรียน เพราะพฤติกรรมไม่ได้ชี้ชัดว่า น้องเป็นแบบนี้ แต่มีเหตุที่จูงใจ
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้ามาประสานข้อมูลในส่วนเรื่องการถูกหลอก จะตรวจสอบบัญชีการโอนเงิน เพื่อช่วยในเรื่องเงินส่วนที่สูญเสียไป เพื่อเป็นการบรรเทา เบื้องต้นน้องระบุว่า เห็นผ่านในไอจีจึงตัดสินใจลงทุน ตอนนี้ต้องรอเปิดโทรศัพท์น้องพร้อมกับ บช.สอท. ตอนนี้ทาง สส.ของ จ.ร้อยเอ็ด ติดต่อเข้ามาหาตน เพราะมีทางญาติน้องติดต่อไปให้เข้าไปดูแลและช่วยเหลือ ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างพูดคุย