รมว.ศธ.ตรีนุช เทียนทอง สั่งการให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการติดตามสถานการณ์การระเบิดในโรงงานที่สมุทรปราการอย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนที่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมทั้งให้ดูแลครอบครัวของครูและนักเรียน ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่เช่นกัน

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับข้อมูลจาก นายศุกมิตร ศิรกัณฑะมากุล ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรปราการ โดยการรายงานของ นายไพรัตน์ ก้อนทองคำ ผู้อำนวยการ สพม.สมุทรปราการ และนายวรรณชัย บุสนาม ผู้อำนวยการ สพป.สมุทรปราการ เขต 2 เผย ผลการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จากการการระเบิดภายในโรงงานของบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พบว่า มีโรงเรียนในสังกัด สพป.สมุทรปราการ เขต 2 ได้รับผลกระทบและอาคารเรียนเสียหาย 3 แห่ง ได้แก่ รร.วัดกิ่งแก้ว (ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กม.) เกิดผลกระทบกับครอบครัวครู 7 ครอบครัว และนักการภารโรง 1 ครอบครัว โดย ผอ.รร.จัดให้พักในที่ปลอดภัย และมีครอบครัวของนักเรียนบางส่วน ไปพักที่ รร.เตรียมปริญญานุสรณ์ นอกกจากนี้ยัง รร.พรหมพิกุลทอง (ห่างจากที่เกิดเหตถ 3 กม.) และ รร.คลองลาดกระบัง (ห่างจากที่เกิดเหตุ 5 กม.) ที่ได้รับความเสียหาย

ส่วนโรงเรียนในสังกัด สพม.สมุทรปราการ พบว่า โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม (อยู่ห่าง 10 กม. มี แต่ครอบครัวที่บ้านไฟไหม้ทั้งหลัง 1 ครอบครัว นักเรียน 2 รายต้องหนีเพลิง ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนโรงเรียนราชวินิตสุวรรณภูมิ ที่อยู่ห่างออกไป 5 ก.ม. ได้กันบุคลากรออกนอกพื้นที่โรงเรียนเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งยังมีผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชน มาขอพักอาศัยที่หอประชุมโรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง

ทั้งนี้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้กำชับให้ทาง ศธจ.สมุทรปราการ ติดตามและประสาน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ร่วมกันช่วยเหลือในพื้นที่ และรายงานให้ทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของ รมว.ศธ.