อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจ ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ ถูกหยิบยกขึ้นมาแทบทุกเวที รวมถึงเวทีสาวงามระดับโลกอีกด้วย คือ “ความยั่งยืน” ให้สะท้อนมุมมอง เพื่อปกป้องโลก ให้ทุกคนมีความสุข ความมั่นคงในชีวิตอย่างยั่งยืน

ดังนั้นเมื่อ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” พร้อมด้วยคณะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 มาเยือน “เดลินิวส์” ทั้งที ทีม Sustainable daily จึงได้มีโอกาสสัมภาษณ์ทัศนคติและมุมมองของคนสวยที่มีต่อโลกใบนี้ ซึ่งสาวงามทั้ง 4 ได้สะท้อนหลากมุมมองได้อย่างน่าสนใจ

เริ่มจาก “แอนโทเนีย” เจ้าของมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2023 ถือเป็นสาวงามรักษ์โลกคนหนึ่ง เพราะเธอเป็นกระบอกเสียงขับเคลื่อนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตั้งแต่แสง
สปอตไลต์ยังไม่ส่องมาที่ตัว เธอเป็นผู้คิดค้นและก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน โดยทุกคำสั่งซื้อจะสมทบทุน 1 ดอลลาร์ให้กับโครงการลิตเติลสเต็ปส์ ของตัวเอง นำไปคืนประโยชน์ให้กับสังคม และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่แข็งแรง

“แอนโทเนีย” ฉายภาพทุกอย่างจะมีความยั่งยืนได้ เราต้องสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องนี้ให้แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนหนุ่มสาว ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ พวกเราต้องมีความตระหนักรู้ร่วมกันในเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธีและหลายรูปแบบ แต่ก่อนอื่นเราควรมีแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการให้ความรู้แก่ประชาชนก่อนว่า ตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น อาจเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เช่น การรีไซเคิล การลดปริมาณขยะ และการนำขยะที่ยังใช้ได้กลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะที่โรงเรียน ที่บ้าน ทุกภาคส่วนสามารถเริ่มต้นได้เองในเรื่องนี้ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

หรือแม้เพียงการปลูกต้นไม้ การแยกขยะ การใช้เสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น สิ่งที่ทำในชีวิตประจำวันเหล่านี้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ทั้งสิ้น ซึ่งการปลูกฝังที่ถูกต้องคือพื้นฐานที่สำคัญ แม้แต่การให้ความรู้เกี่ยวกับมลพิษจากการใช้ยานพาหนะบนท้องถนน รณรงค์ให้ผู้คนหันมาใช้จักรยานก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน ขณะเดียวกันสิ่งสำคัญที่สุด คือ การให้ความรู้อย่างถูกต้อง เพื่อการกระตุ้นจิตสำนึกของผู้คนในสังคม รวมถึงรัฐบาล เจ้าหน้าที่ระดับสูง และภาคอุตสาหกรรมเอง ก็ควรเข้ามามีส่วนร่วมด้วยอย่างจริงจัง เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน

เธอยังให้ความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง ลดการใช้ของฟุ่มเฟือย การนำกลับมาใช้ซํ้า รียูสหรือรีไซเคิล ลดการใช้พลาสติก หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ให้มากขึ้น แอนโทเนีย เชื่อว่า ทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ ต้องเริ่มจากตัวเราเองลงมือทำ เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า

ส่วน “เจสซี่-กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์” สาวงามผู้คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มองว่า ความยั่งยืนในมุมเจสซี่ ขอพูดเรื่อง นิสัยส่วนรวมของมนุษย์ เจสซี่มองว่า การที่เรามีสติ และความโลภที่น้อยลง จะแก้ปัญหาเรื่องความยั่งยืนในระยะยาวได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความสูญเสีย การเมือง การทำงานร่วมกัน ในบริษัท การไม่คอร์รัปชัน หรือมองในมุมธรรมชาติ ที่เกิดจากความต้องการที่มาก ความโลภ ถ้ามนุษย์เราสามารถคิดได้ว่า ในระยะยาว การที่เรา มีแค่นี้ แล้วพอใจ หรือจริง ๆ แล้ว การที่เรามองว่า มีมากเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ดี ถ้าเราเปลี่ยนแนวความคิดได้ตั้งแต่แรก เจสซี่มองว่า ทุกคนจะดีขึ้น ขอแค่ให้ใช้ชีวิตแบบมีสติ รวมถึงการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น ช่วยทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

อีกประเด็นที่สำคัญ คือ ผู้นำ ต้องเป็นผู้นำที่ดี มีกฎที่มั่นคง มีวิสัยทัศน์มุมมองหลาย ๆ อย่างว่า สิ่งไหนที่ต้องแก้ไข อะไรสำคัญที่สุด แก้ไขเร็วที่สุด จะพัฒนาต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการศึกษา การแก้ปัญหาความยากจน ถือเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องความยั่งยืน

ด้าน “นลิน-ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวราฉัตร” สาวงามรองชนะเลิศอันดับ 3 ให้มุมมองในเรื่องความยากจน เป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ได้อย่างยั่งยืน หลายประเทศทั่วโลกก็เกิดขึ้น นลิน มองว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นสำคัญ ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด เหมือนการให้เบ็ดตกปลา ดีกว่าเรายื่นอาหารให้เขา ยื่นของฟรี ๆ ไม่มีการฝึกอาชีพ ไม่ทำให้เขาหารายได้อย่างยั่งยืน อยากให้สนับสนุนอาชีพให้ตรงจุด ให้ตรงกับพื้นที่หรือชุมชนนั้น ๆ

เธอมองว่า ปัญหาความยากจน ทำให้ประชาชนไม่สามารถพัฒนาด้านอื่น ๆ ได้ ทำให้มีข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เรื่องการศึกษา ไม่มีเงินมาเรียน ซึ่งปัญหาการศึกษา มีความสำคัญ เป็นบ่อเกิดช่วยการพัฒนาตนเอง พัฒนาสิ่งแวดล้อม การศึกษาเรียนรู้มีขึ้นได้ตลอด ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้ นำมาสร้างความยั่งยืน สร้างความมั่นคง และเชื่อว่า ถ้าผู้นำมีนโยบายออกมาจริงจัง และมีการการติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง ๆ

ปิดท้ายที่ “ณิชา-ณิชา พูลโภคะ” สาวงามรองชนะเลิศอันดับ 4 น้องเล็กคนสุดท้อง สะท้อนมุมมองในเรื่องของอาหาร ณิชา เชื่อว่า ประเทศไทยของเราโชคดี ประเทศของเราทำเกษตรกรรมมาเยอะ สภาพอากาศเราค่อนข้างเอื้ออำนวย เราจะมีอาหารมากกว่าประเทศอื่น แต่หลาย ๆ อย่าง
หลาย ๆ ประเทศ เขาขาดแคลนตรงจุดนี้ ณิชา มองว่า ถ้าในอนาคตเราสามารถพัฒนาให้เกษตรกรเกษตรกรรมของเรายั่งยืนได้มากขึ้น ใช้ระบบ
สมาร์ตฟาร์มมิง เพิ่มผลิตภาพการผลิต เราก็จะส่งออกไปช่วยเหลือประเทศเหล่านั้นได้ เพราะประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของโลก.