เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวในสัปดาห์นี้ที่ “เสือสมุทร” อยากบอกเล่าถึงความดี

เมื่อพนักงานกวาดขยะ เก็บทองคำหนักเกือบ 10 บาท มูลค่ากว่า 3 แสน ไม่คิดเก็บไว้เอง ส่งคืนเจ้าของสำเร็จ

เรื่องราวเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา “ป้าแหม่ม” ราตรี ชุมวงค์ วัย 55 ปี พนักงานกวาดขยะของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เก็บทองคำรูปพรรณหนักเกือบ 10 บาท ได้ที่หน้าห้องพักอาคารพาณิชย์ ถนนตั้งใจพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ แล้วนำไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาเจ้าของ กระทั่งมีเจ้าของมาติดต่อขอรับทองคืน

เรื่องราวการทำความดีของ “ป้าแหม่ม” ได้ถูกนำไปโพสต์ลงในโซเชียล ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก

“ป้าแหม่ม” เป็นพนักงานกวาดถนนของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มากว่า 2 ปีแล้ว ในทุกๆ วันประมาณ 05.00 น. จะมีหน้าที่รับผิดชอบกวาดถนนบริเวณถนนตั้งใจพัฒนา และใกล้เคียง ในวันดังกล่าว “ป้าแหม่ม” เองนั้น ก็มากวาดถนนตามปกติ เมื่อกวาดมาถึงหน้าอาคารพาณิชย์ห้องแรก ก็พบกล่องทองตกอยู่ทางเดินหน้าห้องดังกล่าว มีลักษณะเป็นกล่องๆ กลมๆ ฝาเปิดออกเล็กน้อย วินาทีนั้นตัว “ป้าแหม่ม” เองก็ไม่กล้าจับ ด้วยคิดว่าตอนนั้นไม่มีพยานรู้เห็น จึงได้ใช้ถังขยะเล็กๆ สีเขียว ซึ่งวางอยู่หน้าห้องนำมาครอบไว้ จากนั้นก็ไปกวาดขยะตามปกติ

“ป้าแหม่ม” เล่าต่อไปว่า จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. เมื่อทำหน้าที่ที่รับผิดชอบเสร็จเรียบร้อย ได้เดินย้อนกลับมาดู และพบว่าร้านค้าข้างๆ ได้เปิดร้านแล้ว จึงได้ชักชวนกันไปดูและพบว่า เป็นสร้อยคอทองคำ 1 เส้น พระเครื่องกรอบหุ้มทอง 1 องค์ สร้อยข้อมือ 1 เส้น คาดว่าน่าจะเป็นของเจ้าของห้องดังกล่าว “ป้าแหม่ม” จึงได้พยายามโทรศัพท์หาเจ้าของห้อง แต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์ จึงได้พากันนำทองไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเจ้าของมารับคืนต่อไป ซึ่งก็ปรากฏว่าไม่นานก็มีผู้มาแสดงตน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามจนมั่นใจว่า เป็นเจ้าของที่แท้จริงจึงได้มอบคืนไป

“เมื่อเห็นครั้งแรก ก็ทราบว่าเป็นกล่องทอง แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นทองจริงหรือทองปลอม จึงไม่กล้าจับ กระทั่งมีพยานรู้เห็น จึงได้นำไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อทราบว่าเป็นทองจริง และมีเจ้าของมาติดต่อขอรับก็ยิ่งดีใจ เพราะตัวเองก็เคยทำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท หล่นหายแต่ไม่ได้คืน ซึ่งรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากจนถึงทุกวันนี้ ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เจ้าของก็คงเสียใจเป็นอย่างมากแน่นอนหากไม่ได้คืน จึงนำไปแจ้งตำรวจ โดยไม่คิดที่จะเอาไปเป็นของตัวเองแต่อย่างใด” ป้าแหม่ม เล่าบอกถึงความรู้สึก

ส่วน นายอิทธิพล ทองหมู่ อายุ 31 ปี เจ้าของทองรูปพรรณดังกล่าว บอกว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ รับงานถ่ายภาพทั่วไป ได้มาเช่าห้องดังกล่าวเพื่อจะทำเป็นสตูดิโอถ่ายภาพ โดยได้ขนของเข้ามาเป็นวันแรก หลังจากขนของเสร็จในช่วงค่ำ ได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยได้นำทองซึ่งประกอบด้วย สร้อยคอทองคำและพระเครื่อง น้ำหนักรวมประมาณ 3 บาท สร้อยข้อมือหนัก 4 บาท ใส่กล่องและใส่กระเป๋าคาดหน้าอกไว้ ไม่กล้าเก็บไว้ที่ห้อง เพราะเพิ่งย้ายมา ยังจัดข้าวของไม่เสร็จ ประมาณ 5 ทุ่ม จึงเดินทางกลับมาในห้อง และคาดว่ากล่องใส่ทองน่าจะหล่นโดยไม่รู้ตัว ตอนที่ตนเปิดกระเป๋าเพื่อที่จะเอากุญแจมาเปิดบ้าน เพราะหน้าบ้านมืดมาก กระทั่งช่วงสายของวันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาว่า เป็นเจ้าของทองที่มีคนเก็บได้หรือไม่ ตนจึงรีบเปิดดูกระเป๋าก็ไม่พบ จึงรีบไปที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และก็พบว่าเป็นทองคำของตนจริงๆ

“ต้องขอขอบคุณพี่ราตรี ชุมวงค์ เป็นอย่างมาก ที่เก็บได้และนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าทองหาย และก็ไม่รู้ว่าหายที่ไหน และอาจจะไม่ได้คืนอย่างแน่นอน ทองดังกล่าว ผมเก็บออมจากเงินที่ไปรับจ้างถ่ายรูป และไปซื้อทองเก็บไว้ ถ้าหากหายไปคงจะเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็โชคดีที่มาเจอคนดีๆ อย่างพี่ราตรี” เจ้าของทอง กล่าวด้วยความดีใจ

เรื่องราวการทำความดีของ “ป้าแหม่ม” นั้น ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ได้มอบประกาศเกียรติคุณให้ รวมทั้งนายชัยรัตน์ มิคะนุช เจ้าของร้านครัวลุงเอ้ ซึ่งได้ให้คำแนะนำ และพาป้าแหม่ม นำทองไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์

พร้อมกันนี้ ดร.เสกสรร ยังได้มอบเงินส่วนตัวจำนวน 5,500 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ป้าแหม่ม พร้อมเตรียมที่จะพิจารณาเลื่อนระดับจากลูกจ้างโครงการ เป็นพนักงานของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และนอกจากนั้น พุทธสมาคมจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังได้สมทบมอบเงินอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ป้าแหม่มอีกด้วย

ดร.เสกสรร กล่าวถึงการทำคุณงามความดีของ “ป้าแหม่ม” ว่า หลังจากคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ทราบข่าว ก็ได้ส่งตัวแทนของเทศบาล ไปร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบทองคืนให้กับเจ้าของ และได้มีการประชุมสภาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งได้มีการพิจารณาความดีความชอบของป้าแหม่ม ซึ่งเดิมเป็นพนักงานจ้างโครงการ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นลูกจ้างรายวัน และมีสัญญาจ้างปีต่อปี จึงได้พิจารณาหาแนวทางที่จะปรับเปลี่ยนเลื่อนระดับจากพนักงานจ้างโครงการ เป็นพนักงานจ้างทั่วไป ซึ่งมีสวัสดิการและค่าตอบแทนมากกว่าลูกจ้างโครงการ แต่ทั้งนี้ ต้องรอให้มีการเกษียณอายุของพนักงานจ้างทั่วไปรายอื่นในเดือน ก.ย. 66 นี้เสียก่อน

“ป้าแหม่ม” ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเรื่องราวการทำดีของตัวเองไว้ว่า ไม่คิดว่าการเก็บทองและมอบคืนให้เจ้าของในครั้งนี้ จะส่งผลต่อชีวิตของตนเอง ไปที่ไหนก็มีแต่คนทักทายให้กำลังใจ รวมทั้งเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โดยท่านนายกเสกสรร นิยมเพ็ง ก็เตรียมที่จะเลื่อนระดับให้เป็นพนักงานทั่วไปของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งการกระทำของตนเองในครั้งนี้ เพียงเพื่ออยากจะนำทองไปคืนให้เจ้าของเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้รับการชื่นชมมากมายเช่นนี้เลย

เรื่องราวของ “ป้าแหม่ม” นับเป็นต้นแบบของการทำดีที่ไม่หวังผลตอบแทน อันเป็นที่น่ายกย่องเชิดชูโดยแท้.
……………………………………..
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล “กิตติ ตันติมาลา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.เพชรบูรณ์
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” ได้ที่นี่..