อ้าวแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราก้าวเขาสู่ภาวะโลกเดือดเช่นนี้ โดยถ้าโลกเข้าสู่ภาวะโลกเดือดนั้น สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ก็จะมีดังต่อไปนี้…
1.การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแบบสุดขั้ว โดยเราจะได้เจอกับฤดูร้อนที่แทบจะทำให้ใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งไม่ได้ และต้องเจอฤดูหนาวที่เยือกเย็นแสนสาหัส อีกทั้งสองฤดูนี้ก็จะยาวนานแบบคาดเดาไม่ได้ และบางทีอาจสลับไปมาจนไม่มีฤดูที่ชัดเจนอีกต่อไป นอกจากนี้ในแต่ละช่วงเวลาก็อาจจะมีภัยพิบัติขนาดใหญ่ อาทิ มรสุม, ไฟป่า, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำท่วมใหญ่ผสมกันไปตลอดทั้งปี
2.หายนะของความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยภูมิอากาศที่สุดขั้วนี้จะทำให้พืชและสัตว์บางชนิดนั้น ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้และอาจจะสูญหายไปอย่างถาวร ส่วนบางสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ก็อาจกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ จนทำให้ธรรมชาติเสียสมดุล และระบบนิเวศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงรวดเร็ว
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/08/Sus-2008-06.jpg)
3.ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการที่น้ำแข็งขั้วโลกละลายด้วยอัตราเร่ง ซึ่งไม่เพียงเหล่าหมีขั้วโลกจะไม่มีที่อยู่แล้ว ชุมชนริมน้ำ ริมทะเล และมหาสมุทรเอง ก็ต้องเตรียมตัวย้ายถิ่นฐานกันครั้งใหญ่ โดยมีผู้เคยทำนายไว้ว่ากรุงเทพฯ เองก็อาจจะจมทะเล และชายฝั่งทะเลอาตจะไปอยู่แถว ๆ เขาใหญ่ก็เป็นได้
4.ปัญหาสุขภาพจากอุณหภูมิสุดขั้ว ยังไม่นับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยพบเจอกันมาก่อน รวมถึงอาจมีการบาดเจ็บกับโรคภัยที่เกิดมาจากภัยพิบัติ หรือโรคจากคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ และคุณภาพอาหาร รวมถึงอากาศที่ร้อนขึ้นก็จะยิ่งเพิ่มพันธุ์ยุงต่าง ๆ ให้เติบโตขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วขึ้นมากกว่าปกติ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/08/Sus-2008-07.jpg)
5.ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร เมื่อภูมิอากาศคาดเดาไม่ได้ ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ก็จะเกิดปัญหาทางการเกษตร เพราะผลผลิตจะได้ไม่สม่ำเสมอ หรือมีการแย่งชิงน้ำกันระหว่างเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และครัวเรือน
6.ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงสุดขั้วข้างต้นจะส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น ไม่ได้มีแค่ผู้ประกอบการด้านเกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว เพราะแม้แต่ภาคการเงิน ภาคการลงทุนก็กระทบ และส่งผลกระทบจากเศรษฐกิจมหภาคไปสู่เศรษฐกิจครัวเรือน โดยทำให้รายได้และรายจ่ายครัวเรือนสั่นคลอนตามไปด้วย
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/08/Sus-2008-05.jpg)
วิกฤติทั้ง 6 เรื่องนี้ เชื่อมโยงกันและสามารถเพิ่มอัตราเร่งปัญหาต่าง ๆ ได้ ดังนั้นภาวะโลกเดือดที่เราเผลอตัวเข้ามาอยู่กลางวงนี้ คงไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่มิได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้ เราจึงต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเร่งด่วน ส่งสัญญาณสู่ระดับนโยบายให้พวกเขาลดการดื่มช็อกมินต์ ลดการกอดกันโชว์สัญลักษณ์หัวใจคู่ และเลิกแย่งเค้กรายวัน แต่หันกลับมาใส่ใจการแก้ไขปัญหาภาวะโลกเดือดอย่างจริงจังเร่งด่วน ส่วนพวกเราประชาชนตาดำ ๆ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเตรียมแผนรับมือระดับครัวเรือน การสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง และร่วมกันเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อลดภาวะโลกเดือด และควรหาเวลากลับไปทบทวน “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” กันอย่างจริงจัง.
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/08/Sus-2008-12-1024x112.jpg)
CSR Man