ทำไม? ไม่ทนรอไปอีก 10 เดือน รอให้ สว.ลากตั้งหมดวาระ รอให้พรรคก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลก่อน ปัญหา “หนี้เสีย” จึงค่อยโผล่ออกมา

วันก่อนนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดข้อมูลหนี้เสียในไตรมาส 2/2566 พุ่งทะลุ 1 ล้านล้านบาท จากไตรมาสแรกที่ 9.5 แสนล้านบาท คาดว่าหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก จากนี้เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่ จึงเป็นห่วงว่าหนี้เสียรถยนต์จะพุ่งถึง 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากกลางปี 65

ตามมาด้วย “สมาคมภัตตาคาร” แสดงความเป็นห่วงว่ายิ่งตั้งรัฐบาลล่าช้า จะกระทบกับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ เห็นชัดว่าใกล้ถึงช่วงเดือน ก.ย. 66 ยอดจองงานเลี้ยงกร่อยมาก!

สุรพล โอภาสเสถียร Archives - YUTTHASART ONLINE

นี่ขนาดแค่ ก.. ซึ่งเป็นเดือนหน้าแล้วยังกร่อย! ถ้าพลพรรคก้าวไกลขอลากไป 10 เดือน เทศกาลปีใหม่สงกรานต์ ไม่สุดแสนจะกร่อยหนักไปกว่านี้หรือ?

วันนี้คนรวย ข้าราชการประจำ-ข้าราชการบำนาญมีเงินเดือน และสส.มีรายได้กว่า 1 แสนบาท/เดือน มีสวัสดิการมากมาย มีผู้เชี่ยวชาญ-ที่ปรึกษา สส. อีก 8 คน เงินดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท รวมทั้ง “มนุษย์เงินเดือน” ที่ไม่มีภาระ ไม่มีหนี้สิน ไม่เดือดร้อนอะไร!

จึงกล้าพูดได้ว่าตั้งรัฐบาลล่าช้าไปอีก 10 เดือน ก็ไม่มีปัญหา รอให้คณะ สว. 250 คน หมดอายุในวันที่ 11 .. 67 ก่อนจึงค่อยตั้งรัฐบาลของประชาชน คือพูดแบบโลกสวย เห็นแก่ได้ แต่ไม่เห็นใจคนที่มีโอกาสในสังคมน้อยกว่า ไม่เข้าใจหัวอกคนที่มีภาระ มีหนี้สิน และเดือดร้อนจากการทำมาหากินในยุค “เงินฝืด” ผู้คนไม่มีกำลังซื้อ

นักธุรกิจระดับหมื่นล้านบาทคนหนึ่ง อายุ 60 ปีกว่าๆ ทำนิคมอุตสาหกรรม ทำโรงงานขนาดใหญ่ ทำโรงไฟฟ้า นัดสื่อฯกว่า 10 คนไปกินข้าว พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง หลังจากการเลือกตั้งผ่านไป 1 สัปดาห์

แกบอกว่าหลังเห็นผลการเลือกตั้งคืนวันที่ 14 พ.ค. 66 แล้วนอนไม่หลับ! วันรุ่งขึ้น (15 พ.ค.) ยกเลิกแผนการไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะไม่มีอารมณ์ไปท่องเที่ยว

ใครอยากปิดสวิตช์ สว. แต่ไม่ต้องการให้มีรัฐบาลใหม่ ยังไม่อยากมีนายกฯ ไม่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า ลองไปฟังนักลงทุนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คนทำอีเวนต์ พ่อค้าแม่ค้า คนหาเช้ากินค่ำ และนักศึกษาจบใหม่ จะปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งรักษาการแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ไหวนะ! ส่วนใหญ่ไม่มีใครบอกว่าดีหรอก!

เมื่อยังไม่มีรัฐบาลจากพลเรือน ยังไม่มีนายกฯ ประเทศ ไทยจึงอยู่ในห้วงสุญญากาศ ตกอยู่ในวังวน “รัฐข้าราชการ” แต่ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และความเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชน สู้ “รัฐบาลพลเรือน” ไม่ได้

ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ภายใต้ร่มเงาของ “รัฐบาลทหาร-รัฐราชการ” แต่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศไทยรั้งท้ายในอาเซียนทุกปี ประชาชนหลายล้านคนยากจน หนี้สินสาธารณะ-หนี้ครัวเรือนพอกพูนเหมือนดินพอกหางหมู ขณะที่อันดับดัชนีการคอร์รัปชันของประเทศไทยทะลุเกิน 100 (จาก 180 ประเทศ) หนักกว่าช่วงก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 เสียอีก!

ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งผ่านมาเกือบ 3 เดือน จึงต้องรีบตั้ง “รัฐบาลพลเรือน” เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าเสียที! ไม่เสียโอกาสในเวทีโลก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ไม่เช่นนั้น “รัฐราชการ” จะเกียร์ว่าง! เช้าชามเย็นชาม!

——————–
พยัคฆ์น้อย