อาการหลั่งไวหรือหลั่งเร็วเป็นอาการที่มีการหลั่งอย่างรวดเร็วแล้วอ่อนตัว ไม่สามารถให้ความสุขสุดยอดแก่ฝ่ายหญิงได้ หากฝ่ายหญิงไม่สามารถถึงจุดสุดยอด 5 ครั้ง ในการร่วมเพศ 10 ครั้ง จะถือว่าเป็นการหลั่งไว ระยะเวลาการหลั่งไว ดร.อาได ข่านส์ จากคณะแพทยศาสตร์ สิงคโปร์ ได้แบ่งออกเป็นระยะดังนี้ ระยะขั้นที่ 1 หลั่งขณะเล้าโลม ยังไม่ได้สอดใส่ ระยะขั้นที่ 2 หลั่งใช้เวลาต่ำกว่า 5 ครั้งเมื่อสอดใส่เข้าแล้ว ระยะขั้นที่ 3 หลั่งใช้เวลาน้อยกว่า 2-3 นาที เมื่อสอดใส่เข้าแล้ว ชนิดของการหลั่งไวมี 2 ชนิด คือ แบบปฐมภูมิ เริ่มเป็นตั้งแต่หนุ่มเป็นมาตลอดจนสูงอายุ แบบทุติยภูมิ วัยหนุ่มไม่เป็นมาเป็นตอนสูงอายุ

สาเหตุการหลั่งไวมีดังนี้ ความรีบร้อนเริ่มจากช่วยตัวเองจากเด็กหนุ่ม มารีบร้อนตอนร่วมเพศอีก เป็นสภาวะของจิตใจขาดความมั่นใจ หลั่งข้างนอกบ่อย ๆ คือ ใช้คุมกำเนิด โดยฝืนใจให้หลั่งข้างนอก มีอาการอักเสบบริเวณอวัยวะเพศ เช่น อักเสบลูกอัณฑะ ต่อมลูกหมาก กระเพาะปัสสาวะ เกิดจากการกระแทกให้ช้ำของอวัยวะในช่องท้องด้านล่าง เช่น อุบัติเหตุจากการขี่ม้านาน ๆ ขี่จักรยานนาน ๆ ระบบเส้นประสาทฝอยที่มาเลี้ยงบริเวณหัวอวัยวะเพศมีมากกว่าปกติ และสาเหตุอ่อนตัวจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ทำให้ต้องรีบร้อนร่วมเพศเพราะกลัวว่าจะอ่อนตัวเสียก่อน พอรีบมาก ๆ ก็จะเกิดอาการอ่อนตัว หลั่งเร็ว อ่อนตัวหมุนเวียนไปมา

การรักษาอาการหลั่งไว ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุแล้วอาศัยแพทย์บำบัดให้เข้าใจถึงเวลาที่ต้องใช้ในการปลุกเล้าโลมอารมณ์หญิง ให้เข้าใจถึงพฤติกรรมทางเพศ ใช้ท่าทางที่ถูกต้อง จุดสัมผัส ร่วมกับการฝึกบริหารกล้ามเนื้อเพศจะช่วยยืดการแข็งตัวออกไปอีก 30 นาที การแก้ไขโดยการใช้ยากินเสริมสารควบคุมประสาท จะสามารถยืดการหลั่งได้อีก 10-20 นาที ความสำคัญของการรักษานี้ คือ สามารถดำรงการแข็งตัวได้อีก 10 นาที หลังจากหลั่งแล้ว เพราะช่วงนี้ฝ่ายหญิงจะเร่งการปฏิบัติจนถึงจุดสุดยอดได้ในเวลาอันสั้น จนเกิดความสมดุลได้ทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ ปัจจุบันมียาช่วยยืดการหลั่งได้ดีระดับ 10 นาที ถึง 20 นาที ผู้ที่ยังไม่เคยทราบก็เป็นข่าวดีจะได้เริ่มภาคภูมิใจตัวเองหลังใช้ยาช่วย เป็นยาจากสหรัฐที่ได้ใช้มาหลายปีแล้ว

————————
ดร.โอ สุขุมวิท 51