สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ เรียกร้องฟิลิปปินส์ย้ายเรือรบ “บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร” เป็นเรือที่มีลำตัวยาวประมาณ 100 เมตร ก่อสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ออกจากแนวสันดอนโธมัสที่สอง ใกล้กับหมู่เกาะหนานซา ซึ่งเป็นชื่อภาษาจีน ที่รัฐบาลปักกิ่งใช้เรียกแทนหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า จีนเดินหน้าเรียกร้องอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ ตลอดระยะเวลานานกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา


ทั้งนี้ แนวสันดอนโธมัสที่สอง ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ประมาณ 105 ไมล์ทะเล โดยการที่แนวสันดอนโธมัสที่สอง ยังตั้งอยู่ในทะเลอาณาเขต ที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ คือห่างไม่เกิน 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐาน กองทัพฟิลิปปินส์จึงเข้าไปประจำการในบริเวณนี้ ตั้งแต่ปี 2541 และใช้เรือบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร เป็นฐานประจำการชั่วคราวในอีก 1 ปีต่อมา


ด้านสภาความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ตอบกลับ ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่มีเนื้อหาเพียงว่า กองทัพฟิลิปปินส์จะไม่มีทางถอนกำลังออกจากแนวสันดอน “อยุนงิน” ซึ่งเป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์ ใช้เรียกแนวสันดอนโธมัสที่สอง


อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์เชิญนายหวง ซีเหลียน เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คือการที่เรือลาดตระเวนของหน่วยยามฝั่งจีน ฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างลำเลียงอาหาร น้ำ และเชื้อเพลิง ไปส่งยังฐานปฏิบัติการของทหารฟิลิปปินส์ บริเวณแนวสันดอนโธมัสที่สอง


อย่างไรก็ตาม สำนักงานยามฝั่งของจีนกล่าวว่า ว่าเรือตรวจการณ์ 2 ลำ และเรือซ่อมบำรุง 2 ลำ “เป็นฝ่ายรุกล้ำน่านน้ำ” ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของรัฐบาลปักกิ่ง บริเวณหมู่เกาะหนานซา ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกหมู่เกาะสแปรตลีย์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า การดำเนินการของจีน “อยู่ภายในขอบเขตของกฎหมาย”


กระนั้น เหตุการณ์ฉีดน้ำลักษณะนี้ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ย. 2564 เรือตรวจการณ์ของจีน เคลื่อนเข้ามาปิดเส้นทางเดินเรือ และฉีดน้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์ ซึ่งเตรียมส่งเสบียงให้แก่ทหาร ที่ประจำการอยู่บริเวณแนวสันดอนแห่งนี้เช่นกัน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES