ผ่านการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 ใกล้ครบ 3 เดือน อุณหภูมิการเมืองไทยยังร้อนแรง กำ ลังทำ สถิติเกือบ90วัน นอกจาก จัดตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ได้แล้ว โหวต นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เจอโรคเลื่อน นัดไว้วันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ก็ขยับไปอีก!!
จังหวะเดียวกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ตอนแรกประกาศจะกลับไทย วันที่ 10 ส.ค. 66 พอสถานการณ์การเมืองพลิกผันรายวัน บรรดากูรูการเมืองฟันธงว่าทักษิณ ยังไม่กลับ ถึงแม้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะออกมาแซะว่า “เพ้อเจ้อ”
สุดท้ายเมื่อทักษิณ ขอเลื่อนจริงๆ อ้างหมอนัดให้ไปตรวจร่างกาย แต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สื่อกัมพูชาเผยแพร่ข่าว “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” โผล่ร่วมเป่าเค้กงานวันเกิด ฉลองครบ 71 ปี สมเด็จเตโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ถือว่าการเลื่อนกลับไทยของทักษิณ ช่วงนี้น่าจะพอมีเวลาไปนั่งทบทวนสิ่งที่หลาย ๆ ฝ่ายออกมาสะกิดเตือนเอาไว้บ้างก็ดี หากมารับโทษยอมเสี่ยงเข้าคุก ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่เกิดขึ้นหลัง รัฐประหาร 22 พ.ค. 57 โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จนได้มาทั้งองค์กรอิสระ และ250 สว. ซึ่งถูกมองว่ามีไว้เพื่อสืบอำนาจให้กับฝั่ง คสช. จนสื่อตั้งฉายาให้เป็น สภาปรสิต บ้างก็เปรียบเปรย ผลไม้พิษ
ผลงาน 250 สว. ผลิดอกออกผล โชว์บทบาทเล่นงานจนทำ ให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ฝ่ายประชาธิปไตย แม้จะรวมเสียงได้มากถึง 312 เสียง เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตก้าวไกล เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่อาจฝ่าด่าน 250 สว. หากย้อนกลับไปดูผลงานของ250 สว. หลังการเลือกตั้ง2562จะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว วันที่ 5 มิ.ย. 62 ประชุมรัฐสภา โหวตเลือกนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯที่ถูกเสนอชื่อจากพลังประชารัฐ ชนะแบบท่วมท้น 500 เสียง ได้จากพรรคร่วม สส. (251 เสียง) และ ส.ว.(249 เสียง)
เรียกว่า 4 ปีก่อน 250 สว. ต่างยืนขานชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ผู้นำ ที่มาจากรัฐประหาร เสียงดังฟังชัดแบบพร้อมเพรียงไม่มีเคอะเขิน พอมาถึงพิธา แคนดิเดตก้าวไกล ที่มาจากฉันทามติประชาชน 14 ล้านเสียงเลือกเข้ามา มีเพียง 13 สว.เท่านั้นที่โหวตให้ (ทำให้เสียงไม่ถึงครึ่ง376) ตอนนี้หลายฝ่ายจึงพยายามส่งเสียงเตือนสติดัง ๆ ไปยัง พรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยมีภาพจำ ถูกยกให้เป็นพี่ใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย จากอดีตทักษิณ เคยต่อสู้ขับเคี่ยวกับ อำนาจเผด็จการ สร้างศรัทธาให้ประชาชนเชื่อมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ถูกรัฐประหาร2 ครั้ง ทั้งสมัยตัวเองปี2549 และน้องสาว ปี2557 โดนยุบทั้ง ไทยรักไทย และ พลังประชาชน แกนนำในพรรคหลายคน สมัยอดีตเป็นนักศึกษาก็เคยเข้าป่าต่อสู้กับเผด็จการทหารมาเช่นกัน
เวลาผ่านไปรวดเร็ว 17 ปีจากรัฐประหารปี2549 กระทั่งมาถึงยุคลูกสาวทักษิณ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร กระโดดสู่สนามการเมืองในฐานะ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตอนไปหาเสียงก็ประกาศชัด ’ดูหน้าดิฉันไว้ ไม่จับมือคนที่เคยร่วมรัฐประหาร“ ประชาชนกว่า 25 ล้านคนต่างเลือก 2 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เข้ามาแบบถล่มทลายเพราะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศบ้าง หลังปล่อยให้อำนาจรัฐประหารแปลงร่างได้บริหารมานาน 9 ปีเต็ม
ในเมื่อเพื่อไทย ตัดสินใจประกาศฉีกเอ็มโอยู สลัดทิ้งก้าวไกลออกจาก ข้าวต้มมัดประชาธิปไตย ไปนั่งแถลงจับมือข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เคยร่วมมือกับอำนาจรัฐประหาร อ้างเพียงสมานฉันท์ทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ
แต่ลืมไปว่ากำลังละทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตย รวมไปถึงศรัทธาของประชาชนที่มอบให้
หากหมากที่เพื่อไทย กำลังเดินไหลไปตามกลเกม “ขั้วอำนาจเก่า” ใช้อำนาจ-ผลประโยชน์ล่อให้ตายใจ จนทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยแตกขั้ว ตอนนี้บรรดาลุง ๆ ต่างนั่งยิ้มเยาะรอกินรวบจาก “ส้มหล่น” มาถึง “มินต์ช็อก” หลากหลายปมร้อนถูกขุดขึ้นมาตีแผ่ ไปให้นักร้องรับลูก ยื่นตรวจสอบทันควันระวังสุดท้ายจะถูกเตะตัดขาตกเก้าอี้ไปด้วย!!
———————–
เชิงผา
