หลังจากทีมฟุตบอลหญิงไทย ได้ไปฟุตบอลหญิงโลกรอบสุดท้ายมา 2 ครั้งติด ในปี 2015 และ 2019 จากการผลักดันของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ และ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน
มาหนนี้ในการจัดที่ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ที่กำลังโรมรันพันตู ต้องเว้นวรรคไปเพราะตกรอบคัดเลือก
หวั่นใจกันว่า อาจจะถึงช่วงที่วงการบอลหญิงไทยต้องชะงักหรือไม่ เพราะผลงานรายการอื่นก็ไม่ดีนัก
กระทั่งขุนพลชบาแก้วชุด 19 ปี ไปสร้างผลงาน คว้าแชมป์อาเซียนมาสำเร็จ จากการจัดที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยรอบชิงชนะเลิศชนะ “เกลอเก่า” เวียดนาม 2-1
รอยยิ้มและความหวังจึงเริ่มกลับมาอีกครั้ง ในการคืนสู่ฟุตบอลหญิงโลก
“ฟุตบอลโลกหนหน้า อีก 4 ปีผมมั่นใจว่าเราพัฒนาทีมจนสามารถผ่านเข้ารอบได้”
นั่นคือคำพูดอย่างมั่นใจของ “โค้ชอาร์ท” สาวิน จรัสเพชรานันท์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุด 19 ปี ที่พาน้องๆ ไปคว้าแชมป์อาเซียน
ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนัก แต่ ณ ปัจจุบัน โค้ชอาร์ท เป็นโค้ชที่อยู่กับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมานานที่สุด ตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่ “โค้ชหนึ่งฤทัย” ลาออกหลังจบฟุตบอลหญิงโลก 2019 ที่ฝรั่งเศส
กุนซือหนุ่ม ที่ตอนนี้อายุ 38 ปี เมื่อเข้าสู่วงการโค้ช ก็ทำฟุตบอลหญิงมาโดยตลอด จากที่เคยคุมทีมชลบุรี ก็ถูกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ดึงเข้ามาทำทีมชาติไทย โดยมาเป็นผู้ช่วย “โค้ชก้าง” นฤพล แก่นสน ที่มาเป็นเฮดโค้ชแทนโค้ชหนึ่ง
“ผมก็อยู่กับฟุตบอลหญิงตั้งแต่นั้น กระทั่ง มิโยะ โอกาโมโตะ แล้วตอนนี้ พี่ก้าง ก็เข้ามาเป็นเฮดโค้ชอีก” โค้ชอาร์ท กล่าว
“เป็นทั้งหน้าบ้าน และหลังบ้าน ไม่ใช่แค่ชุดเล็ก หรือชุดใหญ่ คือดูตั้งแต่ชุดใหญ่ลงมา เพราะเวลาทำงานต้องคุยกันตลอด ต้องลิงค์กัน เราอยู่ตรงกลาง ทั้งส่งขึ้น แล้วก็รับ ถ้าว่างก็มาดูชุดเล็ก ส่วนชุดใหญ่ก็มีไปช่วยบ้าง”
จากการคลุกคลีกับชบาแก้วราว 4 ปี สาวิน ค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพ
“4 ปีข้างหน้าทันแน่ เด็กชุดนี้จะอายุ 22 ปี ทีมชุดนี้เกาะกันไปเรื่อยๆ เมื่อไปผสมกับรุ่นพี่ ในระดับเอเชีย เชื่อว่าสู้ได้แน่นอน”
เมื่อมองถึง ฟุตบอลหญิงโลกที่แข่งกันอยู่ กับคู่แข่งในอาเซียน อย่างเวียดนาม คู่ปรับตลอดกาล โค้ชอาร์ท มองว่าจุดสำคัญคือความอดทน
“ที่หลังๆ บอลเราแพ้เวียดนามนั้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะความกังวล เมื่อแพ้บ่อยก็กังวล แต่แก้ได้ “
“ต้องยอมรับว่า เวียดนามเป็นทีมที่อดทน เน้นเกมรับ พลาดทีเดียวเสร็จเลย ดังนั้นเด็กเราต้องอดทนให้มาก อย่างชุด 19 ปี ผมบอกให้เล่นอดทน ไม่เปิดโอกาสให้เขา เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้”
“เวียดนามมีสูตรสำเร็จ หรืออย่างฟิลิปปินส์ ที่แรงขึ้นมา ก็เป็นนักเตะลูกครึ่ง เป็นสูตรสำเร็จของตัวเอง”
“แต่ผมเชื่อว่า ในแต่ละทีม จะมีรุ่นของมัน เมื่อหมดรุ่นก็เป็นโอกาส อย่างไทยผ่านช่วงเปลี่ยนถ่ายก็มีช่องว่างพอดี เดี๋ยวเมื่อทีมอื่นเริ่มอิ่มตัว แล้วเราพัฒนาขึ้น ก็จะเป็นช่องว่างให้เรา”
โค้ชอาร์ท ยังเชื่อว่า ระบบสร้างบอลหญิงของไทย กำลังไปในทิศทางที่ดี “บุคลากรตอนนี้พอ ในรายชื่อของตนมี 40-50 คน ที่ทำอยู่ ยังไม่รวมรุ่นน้อง ส่วนชุดใหญ่น่าจะมี 30-40 คน รวมตอนนี้หลักร้อย ก็ถือว่าโอเค เพราะอนาคตจะยิ่งดีขึ้น”
“ส่วนบอลลีกก็โอเค ซัพพอร์ตทีมชาติได้ มีตัวเลือกเยอะขึ้น เราแค่เพิ่มคุณภาพในลีกเรื่อยๆ เพิ่มคุณภาพการแข่งขัน และคุณภาพฝึกซ้อม”
“ผมเชื่อว่าต้องพัฒนาทั้งระบบพร้อมๆ กัน บอลหญิงไทยไปในทิศทางที่ดี”
“เชื่อว่าฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกหนหน้า ทีมไทยมีโอกาสไม่น้อย ในการกลับไปเล่นรอบสุดท้ายอีกครั้ง” โค้ชอาร์ท กล่าว
นับเป็นสัญญาณแห่งความหวังอีกครั้งของ ชบาแก้ว ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย หลัง “โกลเดนเจเนอเรชั่น” กำลังค่อยๆผ่านไป อย่างน้อยวันนี้เริ่มเห็นเด็กใหม่ขึ้นมาถม ขึ้นมาเติมเต็ม
ความหวัง 4 ปีข้างกับการไปฟุตบอลโลกอีกครั้งมีโอกาสเป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่แค่ฝีมือของ “โค้ชอาร์ท” สาวิน เท่านั้น หรือแค่นักเตะ แต่ต้องพัฒนาขึ้นมาทั้งระบบ พัฒนาระยะยาว การกลับไปสู่แถวหน้าเอเชีย แตะขอบฟ้าฟุตบอลโลกไม่ไกลเกินเอื้อม.
*** วุฒินล บุญวานิช ***
