เรื่องนี้ นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำสูตรการแพทย์แผนไทย ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร รวมถึงหัตถการการนวดและประคบสมุนไพร การอบไอน้ำสมุนไพร ที่ช่วยบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์สำหรับสตรีวัยทองมาเล่าสู่กันฟัง
โดย นพ.ขวัญชัย บอกว่า อาการวัยทองเป็นภาวะของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากการเพิ่มขึ้นของอายุ ซึ่งเป็นผลมาจากรังไข่หยุดทำงานทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงผลิตน้อยลง
“ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองมักจะมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกง่ายในเวลากลางคืนมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเข่า ผิวหนังแห้ง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห ขี้หลงขี้ลืม ปวดศีรษะบ่อย วิงเวียน เป็นลมง่าย เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่ค่อยสุด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มากะปริดกะปรอย ความรู้สึกทางเพศเสื่อมถอยไปจนถึง
ไม่มีเลย รวมไปถึงปัญหาที่สำคัญ คือนอนไม่หลับ”
อาการที่พบในสตรีวัยทอง มักเกิดจากการเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 โดยเฉพาะ “ธาตุลม” และ “ธาตุไฟ” โดยเป็นภาวะที่ธาตุไฟ หรือความร้อนในร่างกายกำลังลดลง ในขณะเดียวกันธาตุลมก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งธาตุลม มีความสัมพันธ์กับอาการวิตกกังวลคิดมาก นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ปวดชาตามมือตามเท้า ผิวหนังแห้ง ช่องคลอดแห้ง วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น
เป็นที่มาของคำว่า “เลือดจะไปลมจะมา” การรักษาเน้นไปที่การปรับสมดุลของระบบเลือดลม ระบบประสาท การบำรุงโลหิต บำรุงเลือดลมให้บริบูรณ์ ใช้สมุนไพรและตำรับยาแผนไทย โดยเน้นใช้สมุนไพรที่มีรสสุขุมหอมเพื่อคุมธาตุลมไม่ให้กำเริบหรือมีมากเกินไป ได้แก่ 1.กลุ่มยาหอม เช่น ยาหอมเทพจิตร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ ยาหอมแก้ลมวิงเวียน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ยาขิง บรรเทาอาการท้องอืดขับลม แน่นจุกเสียด
2.กลุ่มยาบำรุงเลือด เช่น ยาลูกแปลกแม่ เป็นยาแผนโบราณ มีสมุนไพร 3 ชนิด คือ กล้วยน????้ำไท 1 หวี พริกไทย 1 กำมือ มะตูมนิ่ม 1 ผล มีสรรพคุณ บำรุงเลือดลมสตรี กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ และเป็นยาอายุวัฒนะกวาวเครือขาว บรรเทาอาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย กระสับกระส่าย ช่องคลอดแห้ง และประจำเดือนมาไม่ปกติ ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ เนื่องจากมีสารที่มีโครงสร้างทางเคมีและออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งมดลูก และมะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ควรใช้
3.กลุ่มยาบรรเทาอาการในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด ได้แก่ ชากระเจี๊ยบแดง และชาตะไคร้
นอกจากนี้มี การนวดและประคบสมุนไพร จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามตัวช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย รวมถึง การอบไอน้ำสมุนไพร จะช่วยให้มีคุณภาพการนอนหลับที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำ เพราะการอบไอน้ำสมุนไพร จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด คลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังมีผลดีกับระบบทางเดินหายใจ และถ้าทำควบคู่กับการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกการควบคุมอารมณ์ ฝึกทำสมาธิบำบัด งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก็จะยิ่งให้ผลดียิ่งขึ้น.
อภิวรรณ เสาเวียง