@วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 คือวันนี้ที่ “วันมูหะมัด นอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กำหนดให้เป็นวันประชุมสภาฯ เพื่อลงคะแนนเสียง เลือก”นายกรัฐมนตรี”คนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่ง”เพื่อไทย” จะเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดคของพรรคเพื่อไทย ให้เป็น”นายกรัฐมนตรี” แต่เนื่องจาก” คอลัมน์ข่าวสังคมภูมิภาค” เขียน”ต้นฉบับ”ล่วงหน้า จึงไม่สามารถ”คาดเดา” ได้ว่า ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ “คนไทย” จะมี “นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 ได้หรือไม่ และ”เศรษฐา ทวีสิน” จะได้รับการ”โหวต” .ให้เป็น”นายกรัฐมนตรี”หรือไม่ และหากไม่ได้รับการ”โหวต” ก็แสดงว่า”การเมืองไทย” ยังจะมี”ขวากหนาม” ในการ”สกัดกั้น” เพื่อมิให้ “พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย” ได้เป็นผู้บริหารประเทศ  แต่ก็ได้แต่คิดเข้าข้าง คนไทยทั้งประเทศว่า เราจะได้”นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 เป็น”เศรษฐา ทวีสิน” ถามว่าทำไม่ต้องเป็น”เศรษฐา” เพราะ ประเทศไทยวันนี้”บอบช้ำ” ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” อย่างแสนสาหัส ทั้งจากเรื่องของ”โควิด 19 “ ที่ทำให้ “ประเทศไทย” และ”ทั่วโลก” ต้อง” ตกหลุมตกร่อง”เกือบ 3 ปี ทั้งจากการบริหารประเทศที่”ล้มเหลว”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ”และ”ปากท้อง” เป็นเวลา 9 ปี วันนี้ “ประเทศไทย” ไม่ต้องการ”นักการทหาร” มาบริหารประเทศ เพื่อให้ความ”สำคัญ”กับเรื่อง”ความมั่นคงของชาติ” เพียงอย่างเดียว แต่”ประเทศไทย” และ”คนไทย” ต้องการ ผู้นำที่มีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถ ในการแก้ปัญหา”ของแพง –พลังงานแพง” และ”ผลผลิต”ของ”เกษตรกร” มีราคาที่”ถูกลง” และต้องการให้มี”ผู้รู้” ผู้ที่มี”ฝีมือ” มาแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” ที่ “ตกต่ำ” และ”ซบเซา” ทั้งเรื่องของการ”ส่งออก” ที่”ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน”ติดต่อกันมา 5 เดือนแล้ว  และ”นักท่องเที่ยว” ที่เข้ามาประเทศไทย”ต่ำกว่าเป้า” นี่คือปัญหาแรกๆ ที่”เพื่อไทย” ต้องแก้ไข หากได้เป็น”รัฐบาล”….ซึ่ง หากเคยฟัง”นโยบายการหาเสียง” ของทั้ง” อุ๋งอิ๋ง” แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัว”เพื่อไทย” และ”เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย  ที่ ได้”หาเสียง”ไว้กับ “ประชาชน “ ถ้าทำได้ตาม”นโยบาย” เพียง 50% เชื่อว่า ปัญหา”ปากท้อง” และ”เศรษฐกิจ” จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้แน่นอน…..

@แต่ นั้นแหละ เมื่อ “รัฐบาล”นี้เป็น”รัฐบาลผสม” ต้องมีการ”แบ่งกระทรวง” ต่างๆ ให้กับ “พรรคที่เข้าร่วมรัฐบาล” ก็ยังไม่ทราบว่า”หน้าตา” ของ”รัฐบาลชุดนี้” หลังมีการ”ผสมพันธุ์” กันเสร็จแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร และ”เพื่อไทย” จะ “ขับเคลื่อน” นโยบาย ที่”หาเสียง” ไว้กับ”ประชาชน” ได้มากน้อยขนาดไหน เพราะตัวอย่างของ”พลังประชารัฐ” ที่เป็น”แกนนำ” ในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา และ”อัญเชิญ” บุคคลภายนอกอย่าง”บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็น”นายกรัฐมนตรี” บริหารประเทศมา  4 ปี แต่ไม่ได้ทำตาม”นโนยาย”ที่”หาเสียง”กับ”ประชาชน”ไว้แม้แต่เรื่องเดียว  นี่คือ”บทเรียน”ของ”รัฐบาลผสม.”…..แค่”เงื่อนไข” ที่ “ประชาธิปัตย์” ขอเข้าร่วมรัฐบาลกับ”เพื่อไทย” โดยมี”เงื่อนไข” เข้าร่วมรัฐบาล” เพียง 16 เสียง ในฟากของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” และ” เดชอิศม์ ขาวทอง “ เลขาธิการพรรค โดยไม่มีซีกของ”ชวน หลีกภัย ,บัญญัติ บรรทัดฐาน,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” เข้าร่วมด้วย ก็”ดูไม่จืด”แล้ว   รวมทั้งการขอตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น”ค่าตอบแทน” ซึ่งเป็น”กระทรวง”ที่เป็น”เส้นเลือดใหญ่” ในการแก้ปัญหา “ผลผลิต” และ”แหล่งน้ำ” ให้กับภาคเกษตรกร ที่ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เคยนั่งเป็น”เสนาบดี” 

@เรื่องจริงก็คือ 2 กระทรวงที่สำคัญที่สุด ในเรื่อง”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง”ของ”ประชาชน” ที่ “พรรคแกนนำรัฐบาล” จะต้องหา”บุคคล” ที่มีความรู้ความสามารถมาเป็น”เสนาบดี” คือ”กระทรวงพาณิชย์ “และ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “เพราะเป็น”กระทรวง” ที่เกี่ยวข้องกับ”ราคาสินค้า” การ”ค้าขาย”ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งมี”ผลกระทบ” ทั้ง”ปากท้องของประชาชน” และ”รายได้เข้าประเทศ” ส่วน”กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” มีหน้าที่ในเรื่อง”ผลผลิตทางการเกษตร” ซึ่งเป็นคน”ส่วนใหญ่”ของประเทศ ที่ต้องมีผู้ที่”บริหารเป็น” ในการทำให้”ผลผลิตมีราคา” และ”พัฒนาให้อาชีพการทำการเกษตร” มีความ”ก้าวหน้า” ทั้งในเรื่อง”วิชาการ”และ”การตลาด” ไม่ใช่”ย่ำเท้าอยู่กับที่” เช่น”ปลูกยางพันธุ์ดี” เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ต้นยาง 1 ไร่  ให้”น้ำยาง 2 กิโลครึ่ง” ผ่านไป 50 ปี วันนี้ เกษตรกรชาวสวนยาง ก็ยังได้น้ำยาง 2 กิโลครึ่งต่อไร่ เหมือนเดิม นี้แหละที่”กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ต้องการ”เสนาบดี” ที่มี”ฝีมือ” ในการบริหาร…..

@นับเป็น”โศกนาฎกรรม” ที่เกิดจากฝีมือของ”มนุษย์ชาติ” อย่างแท้จริง นั่นคือเหตุการณ์”โกดังที่เก็บ” พลุ,ดอกไม้ไฟ” และ”ประทัด” ระเบิด กลางตลาดมูโนะ ชุมชนการค้าใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ “คร่าชีวิต” ของประชาชนทั้ง”คนแก่-ลูกเล็กเด็กแดง”ไปถึง 12 คน บาดเจ็บทั้งสาหัสและไม่สาหัสอีกเกือบ 400 ชีวิต บ้านเรือน”ราบพนาสูญ”ไปถึง 200 กว่าหลังคาเรือน บรรทัดนี้ขอ”แสดงความเสียใจ” กับทุกครอบครัวที่”สูญเสีย” และขอแสดงความ”ขัดข้องใจ” กับ” เจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ”อนุญาต” ให้มีการสร้าง”โกดัง” และ”ร้านค้า” ใน”ชุมชน”เพื่อการ”เก็บ”และ”จำหน่าย วัตถุอันตราย ที่เกี่ยวข้องถึง 5 กระทรวงด้วยกัน ท่านทำหน้าที่กันอย่างไร จึงปล่อยให้มีการ ก่อสร้างโกดัง เพื่อเก็บ”วัตถุระเบิด” กลางชุมชนจนกลายเป็น”หายนะอย่างใหญ่หลวง” และหลังเกิด”โศกนาฎกรรม”ในครั้งนี้ พวกท่านจะ”คิดอ่าน”และร่วม”รับผิดชอบ”อย่างไร…..เรื่องนี้จะโทษ”ตำรวจ” ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะผู้ที่ต้องรับผิดชอบรวมกันมีตั้งแต่ “อบต. หรือ” “องค์กรปกครองท้องถิ่น” ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อนุญาตแบบแปลนให้ก่อสร้าง” ฝ่ายปกครอง” ที่ทำหน้าที่”ควบคุมการจำหน่ายวัตถุระเบิด” ที่สำคัญพื้นที่ “ชายแดนไทย-มาเลเซีย”เป็นพื้นที่”ความมั่นคง” ที่” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ทำการควบคุมพื้นที่ ทั้งในเรื่อง”เรื่อง”การข้ามแดน”เรื่อง”การค้าอาวุธ”ระเบิด “และ”ยาเสพติด” วันนี้ นาย สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.อนิรุธ  อิ่มอาบ  ผบก.ภ.จว.นราธิวาส  พล.ต.เฉลิมพล ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส รวมไปถึง นายอำเภอ ผู้กำกับ  และหน่วยงานอื่นๆ ต้อง”มีคำตอบ” ให้กับ”สังคม” และ”คำตอบ” อย่างเดียวไม่พอ ต้องถามหา”ความรับผิดชอบ”ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย….

@ในส่วนของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ก็ต้องตอบคำถามของสังคมและของ”ผู้สูญเสีย” จากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยว่าทำไม่งานด้าน”ความมั่นคง” จึง”หละหลวม” ปล่อยให้”ชุมชนแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย” เป็นที่ตั้ง”โกดังสินค้า” ที่เกี่ยวกับ”วัตถุระเบิด” และ”วัตถุระเบิด” เหล่านี้มีส่วน”เกี่ยวพัน” กับการก่อ”วินาศกรรม” ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่อย่างไร  และที่สงสัยกันมากคือการ”ลำเลียง”สินค้าพวก “ประทัด,ดอกไม้ไฟ”ข้ามแดนไปจำหน่ายที่ มาเลเซีย ทำไม่จึงทำกันง่ายๆ นี้แสดงว่า “เจ้าหน้าที่” ทุกหน่วยงานใน”ชายแดนไทย-มาเลเซีย” ต่าง”รู้เห็นเป็นใจ” กับการค้าชายแดนที่”ผิดกฎหมาย” ใช่หรือไม่…..  ที่สำคัญสองสามี-ภรรยา เจ้าของ โกดัง และร้านค้า คือ เจ้าของกิจการค้า”วัตถุอันตราย” รายใหญ่ที่สุดของ อ.สุไหงโก-ลก ที่ยึดพื้นที่ “ตลาดมูโนะ” เป็นที่”ทำมาหากิน” มาเป็นเวลานาน เป็นผู้”ค้าส่ง” รายใหญ่ในการส่ง”ประทัด –ดอกไม้ไฟ”ไปยัง ประเทศมาเลเซีย เคยถูก “ทหาร” จาก” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” จับกุมดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไมได้รับอนุญาต” เมื่อปี 2559 แต่สู้คดีหลุดมาได้แบบไหนไม่มีใครรู้ว่าทำไม่จึง”ไม่ผิดกฎหมาย”…..และที่สำคัญกว่าคือ “มูโนะ” เป็น”ตลาดชายแดน” ที่ “เศรษฐกิจเฟื่องฟู” เพราะการค้าของ”ผิดกฎหมาย” ทุกชนิดเหมือนกับ”เมืองชายแดน”ทุกพื้นที่ของประเทศไทย และมีการ”จ่ายส่วย” ให้กับ” จ่าฟ.” เป็น”หัวเบี้ย” ในการ”เก็บเงิน” จากผู้ที่ค้าขายของ”หนีภาษี” ส่งให้”นาย”เป็นรายเดือน  เฉพาะ”ส่วยดอกไม้ไฟ” มีการจ่ายเดือนละ 50,000 บาท เท็จจริงอย่างไร “พล.ต.ต.อนิรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส” ตรวจสอบกันเอง…..

@หลังเกิดเหตุ”โศกนาฎกรรม”ในครั้งนี้ กรมการปกครอง มี”หนังสือด่วน” ถึง นายอำเภอทั้ง 800 กว่าแห่ง ให้มีการ”ตรวจสอบ”  สถานที่เก็บและ”จำหน่าย วัตถุอันตราย”เหล่านี้ ซึ่งหลัง”เป็นข่าว” ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี้คือ”วัวหายแล้วล้อมคอก” ที่เห็นเป็นประจำ สำหรับการแก้ปัญหาของประเทศไทย ในขณะที่”โซเชียล” ในพื้นที่มีข้อความที่”แสบสันต์” คือวันนี้” วัวหายแล้ว” และ”ควาย” ยังเต็มพื้นที่ อ่านแล้วก็”ตีความ”เอาเองนะ…..หลังจากนี้ก็คงจะเป็นเรื่องการ”เยียวยา”  ทุกคน และ ทุกครอบครัว ที่”สูญเสีย” จากเหตุการณ์ครั้งนี้ บางครอบครัว”สูญเสียเสาหลัก” บางครอบครัวสูญเสีย”บ้านเรือนที่อยู่อาศัย” บางครอบครัวต้อง”ซ่อมแซมบ้านเรือน” และกว่าจะกลับไป”ใช้ชีวิต” เป็น”ปกติ”  และมี”อาชีพ” เหมือนเดิมคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ในห้วงของการ”สร้างบ้าน-ซ่อมเรือน” และ”ไร้อาชีพ”  ต้องเป็น”หน้าที่”ของ”รัฐบาล” ในการ”สั่งการ” ให้ หน่วยงานในพื้นที่”ดูแลแก้ปัญหา” และคงต้องใช้เวลาเป็น”แรมปี” ในการ”ฟื้นฟู” ชุมชนมูโนะ ให้กลับมาเป็น”ตลาดการค้าชายแดน”เหมือนเดิม…..ส่วน เจ้าของ”โกดัง”และ”คนงาน” ที่ เข้าไป”เชื่อมเหล็ก” ใน”โกดัง” จนเกิด”โศกนาฎกรรม” ครั้งนี้ ก็คงต้องว่ากันไปตาม”กฎหมาย” เพราะเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของการทำผิด”กฎหมาย” เป็นการ”ค้ากำไร” บน”ความเป็นความตายของเพื่อนมนุษย์” ที่ “พ่อค้า และ”นายทุน” ทุกคนพึงใช้สังวรณ์และใช้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็น”บทเรียน” ในส่วนของ”ราชการ” หลัง”สะสาง”เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะป้องกันอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดเหตุ”ซ้ำซ้อน” โดยเฉพาะ 52 ร้านค้า ที่มีการ”ขายดอกไม้เพลิง ประทัด และ พลุ ต่างๆ” ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองทั้งสิ้น จะควบคุมอย่างไร เพื่อมิให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น…..

@”หาดใหญ่.และ”ด่านนอก” ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา ก็มี”นายทุน” สร้าง”โกดัง” เพื่อเก็บ”พลุ – ดอกไม้ไฟ-ประทัด” ส่งขายให้กับ “มาเลเซีย “และ คนในพื้นที่  และมี”โกดัง” อยู่ในชุมชน ไม่ต่างกับที่”มูโนะ” อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส  ก็ไม่ทราบว่า หลังเกิดเหตุที่”มูโนะ” สุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา และ พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา ได้ดำเนินการ ตรวจสอบ และ”ล้อมคอก” เพื่อมิให้เกิด”โศกนาฎกรรม” อย่างไร หรือไม่….จำได้นะ เมื่อปี  2556  ร้านขาย “พลุ –ดอกไม้ไฟ –ประทัด “ ที่ตั้งอยู่ กลางใจเมืองหาดใหญ่ ( ตลาดสดพลาซ่า ) เคยเกิดระเบิด มีผู้บาดเจ็บ 12 คน อาคารร้านค้าเสียหาย 5 หลัง และ วันนี้ ใน ตัวเมืองหาดใหญ่ ก็มีร้านค้าที่ขาย “พลุ-ดอกไม้ไฟ-ประทัด” อยู่จำนวนไม่น้อย” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี “นายกเทศบาลนครหาดใหญ่  “ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี” นายอำเภอหาดใหญ่ และ”พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้อง”ตรวจสอบ” และต้อง”บังคับใช้กฎหมาย” กับ “ธุรกิจการค้า” วัตถุอันตรายอย่างเข้มข้น…..

@ร้านอาหารที่ใช้ใบ”อนุญาตผิดประเภท” โดยการทำเป็น”ผับ” มี”นักร้องดนตรี”และ”พนักงานบริการ” และ”เปิดเกินเวลา” ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนธรรมนูญวิถี ใกล้กับวัด และโรงเรียน  จำนวน 3 ราย ถูก”ฝ่ายปกครอง” สั่งปิด 7 วัน เพื่อให้มีการ”ปรับปรุงแก้ไข” ให้ถูกต้องตาม”กฎหมาย” เพราะมี”ประชาชนทำหนังสือร้องเรียน” ไปยัง “เจษฎา จิตรัตน์” ผวจ.สงขลา   “กลุ่มทุน” ที่เป็น เจ้าของ ซึ่งมีทั้ง “ลูกตำรวจ” ทั้ง “นักการเมือง” ประกาศเปิดใหม่ในวันที่ 3 ส.ค. ก็ต้องถามว่า การเปิดใหม่ ได้รับ”ใบอนุญาตที่ถูกต้องแล้วยัง” และถ้ามี”ใบอนุญาตที่ถูกต้อง” แล้ว กรณีที่อยู่ใกล้”วัด”ใกล้”โรงเรียน” จะแก้ปัญหาอย่างไร อย่าบอกนะว่าที่ปิดไป 7 วัน เพื่อการ”วิ่งเคลียร์” เพื่อขอ”ไฟเขียว” มีการ”จ่ายเพิ่ม” เพื่อกลับมาทำผิด”กฎหมาย”ได้เหมือนเดิม…… ที่สำคัญ ในพื้นของ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้มี”สถานบันเทิง” ที่“ผิดกฎหมาย” เฉพาะในย่าน”ธรรมนูญวิถี” แต่มีอีกหลายสิบแห่ง ที่เป็นในลักษณะเดียวกัน คือ”ใบอนุญาตผิดประเภท” และ”เปิดเกินเวลา” ที่ สำคัญ บางแห่ง” ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล” ก็มี เรื่องอย่างนี้กรมการปกครองต้อง”เอาจริง” สั่งการให้”ผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอ” ดำเนินการให้ถูกต้อง ในเมื่อกำหนดโซนให้แล้ว ทำไมจึงไม่ไปเปิดในโซนที่กำหนดให้ ทำไมต้องเลือก”ทำเล” ที่ ใกล้วัด ใกล้ โรงเรียน ทำไม ทำไม ต้องขอถามหน่วย…..

@น้ำมัน แก๊สโซฮอลล์ 91 และ95 ปรับราคาอย่าง”บ้าเลือด” จนถึงลิตรละ 40 บาท แล้ว ( ในต่างจังหวัด) คนทำงานที่ต้องขับรถ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ “ร้องจ๊าก” เพราะ”ค่าแรง”และ”เงินเดือน” กลายเป็น”ค่าน้ำมัน” ชีวิตจึง”ชักหน้าไม่ถึงหลัง” แถมยังมีข่าวเกิดขึ้นถี่ๆว่า เติมน้ำมันแล้วได้ไม่ครบ ถูก”ปั๊มน้ำมัน”ใช้”เล่ห์เหลี่ยมกลโกง”ซ้ำเติมอีก เรื่องนี้ ”กระทรวงพลังงาน” ไม่คิดที่จะ ช่วยประชาชน เลยหรือไร หรือต้องให้เป็นหน้าที่ของ”รัฐบาลชุดใหม่” อย่างนั้นหรือ….และ ผลพวงจาก”น้ำมันแพง” วันนี้ “น้ำมันเถื่อน” จากฝั่งมาเลเซีย จึงเปลี่ยนจาก” ดีเซล” มาเป็น”เบนซิน” เพราะกำไรมากว่า ( ราคาน้ำมันในมาเลเซียทั้งดีเซลและเบนซินลิตรละ 16 บาทเท่ากัน ) เส้นทาง น้ำมันเถื่อน”ทางบก” ยังเหมือนเดิม และก็”เหมือนเดิม” คือ”ไม่มีใครสนใจในการ “ปราบปราม”และ”จับกุม” โดยเฉพาะน้ำมันเถื่อนที่มากับ”รถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ” ยังคง”ทำหน้าที่” นำน้ำมันเถื่อนมาส่งให้”คอกน้ำมัน” อย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” ทั้ง”กลางวันกลางคืน”…..

@วันนี้ ขบวนการ”ค้าน้ำมันเถื่อนพัฒนาไปมาก มีการ”ซื้อน้ำมันนำเข้าอย่างถูกต้อง”จากประเทศมาเลเซีย โดยการขอ”ยกเว้นภาษี” คือ”ทรานส์ซิส” หรือของ”ผ่านประเทศ”ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น” สปป.ลาว กัมพูชา” และ” เมียนมาร์” แต่โดยข้อเท็จจริง ไม่ได้ส่งไปยังประเทศที่สาม มีการนำน้ำมันมาขายในประเทศ สร้างความ”ร่ำรวย” ให้กับ “ขบวนการค้าน้ำมันข้ามชาติ”อย่างมหาศาล ในขณะที่”ประเทศชาติไม่ได้เงินภาษี”แม้แต่”สตางค์แดงเดียว” เรื่องนี้ “อธิบดีกรมศุลกากร,อธิบดีกรมสรรพสามิต” และ”อธิบดีกรมสรรพากร” จะแก้ไขอย่างไร บอกหน่อย….และล่าสุดมีการ”คดีฉ้อโกง” จากการค้าน้ำมันข้ามชาติเกิดขึ้นแล้วเมื่อ”สอรียะ เก็มเบ็ญหมาด” ผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่งใน จ.สงขลา โอนเงินไปซื้อน้ำมันจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางบริษัทค้าน้ำมันหนึ่งใน จ.สตูล  เพื่อส่งน้ำมันให้กับ” ผู้ค้าน้ำมัน”ใน จ.ระนอง เพื่อส่งไปขายยังประเทศเมียนมาร์ แต่โอนเงินไปแล้ว  4 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับสินค้า ต้องวิ่งโร่ขึ้นโรงพัก สภ.หาดใหญ่ แจ้งความกับ “ร.ต.อ.จิรศักดิ์ วงศ์สุริยะ “ ร้อยเวร ให้ จับกุม เจ้าของบริษัทฯ ที่ จ.สตูลในข้อหา”ฉ้อโกง” และทราบว่า มีผู้ค้าน้ำมันในภาคกลาง ที่ต้องการซื้อน้ำมัน มาเลเซีย ในราคาถูก ที่มีการ”โอนเงิน” ให้กับ”นายหน้า” หรือ”บริษัทผู้ค้าน้ำมัน” แล้วไม่ได้น้ำมันเป็นจำนวนมาก ก็ว่ากันไปในเมื่อ”เล่นกับของเถื่อน” กำไรที่ได้อาจจะไม่คุ้มกับ”ถูกโกง” และ”ถูกจับ” ก็ได้…..

@ส่วนในพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมี”คลังน้ำมัน” ตั้งอยู่ กำลังกลายเป็นพื้นที่ ซึ่งมี”คอกรับซื้อน้ำมัน” ที่มีการ”ลักขโมย” จาก รถบรรทุกน้ำมัน ด้วยการ”ลักน้ำมัน” ที่ถูกต้องตาม”กฎหมาย” ขายให้กับ “ปั้มน้ำมันที่รับซื้อของโจร” ที่เป็นของถูก และเจ้าของรถ”ซื้อน้ำมันเถื่อน” จาก”คอกน้ำมัน” ไปส่งให้ลูกค้าแทน เป็นการ”ค้ากำไรสองต่อ”  เจ้าของ”คอกน้ำมัน” เป็น”คนมีสี” เรื่องนี้ ฝากถึง”ตำรวจ ปนม. ให้ช่วยดำเนินการด้วย เพราะนอกจาก”ผิดกฎหมาย” ยังเป็นการ”ฉ้อโกง” เจ้าของปั้มน้ำมัน ที่ไม่รู้ว่าตนเองซื้อน้ำมันถูกต้อง แต่ได้น้ำมันเถื่อนมาด้วยส่วนหนึ่ง…..

@เมื่อ”หาดใหญ่” ถูกระบุว่าเป็น”แหล่งของบุหรี่หนีภาษี” หลายหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองจาก”ส่วนกลาง” และ”โรงงานยาสูบ” ต่างส่ง เจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง เข้าทำการ”จับกุม” ซึ่งล่าสุด” หลังจากที่ร้านบุหรี่รายใหญ่ถูกจับกุม  ร้านค้าบุหรี่หนีภาษีใน “หาดใหญ่” ถูก”สั่งปิด” ก็ดีที่การค้า”บุหรี่เถื่อน” จะได้ไม่”ประเจิดประเจ้อ” แต่ไม่ใช่หนทางที่จะ”ปราบปราม”ได้จริง ตราบที่”ของเถื่อน” กับของที่”ถูกต้อง” มีราคา”ส่วนต่าง” ถึงซองละ 80 บาท วันนี้การ”ขายบุหรี่เถื่อน” ก็ใช้”ช่องทางอื่น” ในการขายให้ลูกค้า ซึ่งอาจจะได้”กำไร” มากกกว่าเดิม เพราะมีข้ออ้างในการ”ขึ้นราคา” เพราะ เจ้าหน้าที่”เข้มงวด”และไม่ต้อง”จ่ายส่วย”….ที่สำคัญ”ปิดหาดใหญ่” อย่างเดียว แก้ปัญหา”บุหรี่เถื่อน” ไม่ได้ ที่ จ.สตูล ยังมี”เรือเร็ว” ขนบุหรี่จาก”มาเลเซีย” เข้ามาทุกวัน และที่”ตากใบ” จ.นราธิวาส ที่เป็น”แหล่งใหญ่” ในการ”นำเข้าบุหรี่เถื่อน” เพื่อ”กระจาย” ในตลาดชายแดนใต้ ยังขนกันได้อย่าง”อึกทึกครึกโครม” โดยนายทุนใหญ่”ระดับชาติ”คือผู้”บงการ” เชื่อเถอะ เดี่ยวตลาด”บุหรี่ที่หาดใหญ่” ก็กลับมา”คึกคัก”เหมือนเดิม…..

@ลือดังกันให้แซ่ด ในรายการขัดแข้งขัดขากันเอง ที่ชาวบ้านอดรนทนไม่ได้ที่คนที่ถือกฎหมายปล่อยให้สองผับใหญ่กลางเมืองกะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กเยาวชนคนหาเงินธุรกิจสีเทา ผิดกฎหมายท้าทายทำนองว่าเส้นใหญ่ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านร้านตลาด จนฝ่ายปกครองส่วนกลางส่งสายสืบมือปราบบุกจับกุมสองผับชื่อดัง และมีคำสั่งลงโทษย้ายด่วนนายอำเภอเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่เพื่อผลการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายและผิดตามระเบียบของทางราชการ แต่ก็ยังมีข้อกังขาว่าคำสั่งเด้ง5เสือ สภ.กะทู้ ที่ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตร.ภ.จ.ภูเก็ตตามคำสั่งของ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต เกิดรายการพลิกผันอย่างไร คงต้องให้คำตอบกับชาวบ้านได้นะ ผบช.ภ.8 มือตงฉิน

@ถามกันมาจาก”แวดวงสีกากี” ว่า ผบช.ตำรวจภาค 9 คนต่อไป หลังจากที่ “พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล” ผบช.ภาค 9 คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายน ปีนี้เป็นใคร ก็ตอบได้เท่าที่”แมงหวี” มา”กระซิบข้างหู” ว่าหวยจะออกที่ “พล.ต.ต. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” รอง ผบช.ภ.9  ค่อนข้างจะ”แบเบอร์”กว่าคนอื่น ส่วน ตำแหน่ง ผบก.สงขลา ถ้า “พล.ต.ต.วรา เวชชาภินัทน์” ต้องย้ายขึ้นไปเป็น”รอง ผบช.ภ.9 “ ตาม”อาวุโส” ใครจะมาเป็น ผบก.ภ.จว.สงขลา ข่าวว่า ตำแหน่งนี้ถูกจองโดย” พ.ต.อ.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล “รอง ผกก.กก.ภาค 9, ว่างั้น….และ บรรทัดนี้ ก็ขอแสดงความยินดีกับ “นราเดช คำทัปน์” อดีตคนหนังสือพิมพ์ ที่หันมาเอาดีทางการเมือง ลาออกจาก “สมาชิกสภาจังหวัด” ลงสมัครเป็น”นายกเทศบาลเมืองเขารูปช้าง” อ.เมือง สงขลา และได้รับเลือกจากประชาชนตามความต้องการ ก็หวังว่า “ประชาชน” เขารูปช้าง จะได้เห็นการ”พัฒนาบ้านเมือง” ตามที่ได้”หาเสียง”เอาไว้…..

@การเมืองอยู่ในสายเลือด “พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ อดีต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานีหลายสมัย “ฟิตร่างกาย” เตรียมพร้อมที่จะลงสมัครเป็น” นายกเทศบาลเมืองปัตตานี” อีกครั้ง และเชื่อว่าจะได้เสียง”ตอบรับทั้งเมือง” เพราะมี”หลายปัจจัย” ที่ คนในเขตเทศบาลมีข้อ”เปรียบเทียบ”แล้วพบว่า”พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์”  บริหารท้องถิ่นได้ดีกว่า…..เห็นบทบาทของ”ร่มธรรม ขำนุรักษ์” สส.หนุ่ม เขต 3 จ.พัทลุง ทายาทของ”นริศ ขำนุรักษ์” รมช. มหาดไทย ที่ลงพื้นที่”พบปะประชาชน” แล้ว ถ้า มีการลงพื้นที่แบบ”คงเส้นคงวา” เชื่อว่า ในการ เลือกตั้งครั้งหน้าคง”ไม่เหนื่อย” และหา”คู่แข่ง”ที่จะมา”แย่งตำแหน่ง สส.” ได้ยาก….ส่วน “ถาวร เสนเนียม” ที่หลังจาก”พรรคไทยภักดี” ไม่มี สส. จากการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ไปทำ”ธุรกิจร้านกาแฟและอาหาร” บนเกาะยอ อ.เมือง สงขลา มี”ลูกค้าให้การอุดหนุนเนืองแน่น” ข่าวว่า”กาแฟหลักร้อย อาหารหลักพัน” แต่ทุกคนประทับใจกับ”วิวหลักล้าน” สุดยอดของนักบริหาร…..

@“นัจมุดดิน อูมา” เป็นนักการคนแรกๆ ของ จ.นราธิวาส ที่ ควงแขน  “ซาการียา สะอิ “ สส.พรรคภูมิใจไทย เขต 4 ลงพื้นที่มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อ “ซับน้ำตา” ของ”ประชาชน” ที่ได้รับความ “ทุกข์ความเดือดร้อน” จาก”โศกนาฎกรรม”โกดังพลุระเบิด  และตามมาด้วย “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ที่นำคณะเดินทางลงพื้นที่  ช่วยเหลือประชาชน และดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อทำการ”ช่วยเหลือ” ประชาชนอย่างเร่งด่วน นี้คือ”บทบาท”และ”หน้าที่”ของ”นักการเมือง” ที่มีต่อประชาชน,,,, แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

————————————————————— 

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

/////////////////////////////////////// 

นำความห่วงใย.   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำความห่วงใยจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากโกดังพรุระเบิดที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลด จ.นราธิวาส ที่ รพ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 

////////////////////////////////////////// 

เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์.    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) นำฑูตานุฑูต มุสลิม 10 ประเทศซึ่งมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส 

//////////////////////////////////////// 

เยี่ยมผู้ประสพภัย.   พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4  เยี่ยมประชาชนชาวมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ประสพภัยจากโกดังเก็บพลุระเบิด จนไม่มีบ้านเรือนให้อาศัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ จังหวัดจัดให้ 

/////////////////////////////////////////// 

ตรวจที่เกิดเหตุ.    พล.ต.ท. นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตรวจสถานที่เกิดเกตุโกดังเก็บพลุ-ดอกไม้ไฟ ระเบิด โดยมี พล.ต.ต.อนิรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ให้การต้อนรับ 

//////////////////////////////////////////////// 

ช่วยเหลือ.  พล.ต เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมกับ คุณสมฤดี ขำเขียว ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 15 และกำลังพลจิตอาสา ลงพื้นที่เกิดเหตุโกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมสี่งหน่วยทหารในพื้นที่ เร่งให้การช่วย้หลือ บูรณาการกับทุกภาคส่วน ตลอด  24 ชั่วโมง 

///////////////////////////////////////////// 

มุทิตาจิต.  เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงมุทิตาจิตในวันคล้ายวันเกิด ท่านชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และ อดีตประธานรัฐสภา ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์  กรุงเทพฯ 

///////////////////////////////////////////////// 

พะวงเกมส์.   สรรเพรช บุญญามณี สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาพะวงเกมส์ ณ โรงเรียนดอนขี้เหล็ก  ต.พะวง โดยมี เจือ กิ้มอั้น นายกเทศบาล ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ให้การต้อนรับ 

/////////////////////////////////////// 

ยกฉัตร.   สมศักดิ์ อยู่รอต รอง เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้เป็นประธานยกฉัตรขึ้นยอดเจดีย์ ณ วัดประตูเขียน ต.ชิงโค  .สิงหนคร จ.สงขลา โดยมี อรสุรางค์ อินทสโร หน.สนง.กองทุนฟื้นฟูฯ และเชิดเดียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลา ร่วมพิธี 

/////////////////////////////////////////// 

เอาจริง.  พ.ต.อ.ทวี สองส่อง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อดูข้อเท็จจริง และปลอบขวัญประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากโกดังเก็บพลุระเบิด พร้อมขอให้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเอาจริงกับการใช้กฎหมายในการควบคุมวัตถุอันตราย 

//////////////////////////////////////////////// 

เยี่ยมผู้ประสพภัย.  นัจมุดดีน อูมา ร่วมกับ ดร.ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส และ ลุตฟี หะยีอีแต ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย เยี่ยมพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยจากเหตุโกดังเก็บประทัดระเบิดที่ มูโน๊ะ อ.สุไหงโกลค จ.นราธิวาส พร้อมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสพภัย จำนวนหนึ่ง 

/////////////////////////////////////////////////// 

พิธีลอยแพฯ.   ดร.นาที รัชกิจประการประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (อนุทิน ชาญวีรกุล) เป็นประธานในพิธีลอยแพสะเดาะเคราะห์โดยมี ชนนพัฒฐ์ นาคซั่ว สส.เขต 4 จ .สงขลา  พรรคพลังประชารัฐ   ชัยเดช ปาละวงค์ นายอำเภอสทิงพระ โดยมีณัฐวุฒิ แสงศรีคำ นายก อบต.กระดังงาน อ.สะทิงพระ จ.สงขลา ประชาชน และผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ให้การต้อนรับ 

//////////////////////////////////////////// 

ร่วมงานประเพณี.   จิระวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชน จ.ยะลา ร่วมงานประเพณีแก่พระลุยไฟศาลเจ้าโกเล้งจี่ เขามงคลพิพิธ  อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อความเป็นศิริมงคลของประชาชนในพื้นที่ 

//////////////////////////////////////////// 

ลอยเคราะห์.  กระจาย ศรีสงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อตรุ อ.ระโนด จ.สงขลาเป็นประธานพิธีลอยแพสะเดาะเคราะห์เพื่อศิริมงคลของประชาชนในพื้นที่ในการประกอบอาชีพทางทะเล ณ 

 ศาลาพ่อเฒ่า หาดบ่อหูด ต.วัดสนธิ์ .ระโนด จ.สงขลา มีประชาชนเข้าร่วมงานคับคั่ง 

//////////////////////////////////////////////////// 

เปิดงานของดี.  ณัฐภัท ชุมทองเชิดบำรุง เลขานุการนายก อบจ.สงขลาได้เป็นประธานเปิดงานของดีของตำบลบ่อแดง โดยมี โดมเดช ขุนกลับ นายก อบต.บ่อแดง .สะทิงพระ จ.สงขลา ให้การต้อนรับ 

/////////////////////////////////////////////////////// 

จิตอาสา.  มุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา มอบหมายให้เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลาเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และบำเพ็ญสาธารณกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ณ บึงบาโด หมู่ที่ 3 ตำบลยุโป อ.ยะลา จ.ยะลา 

///////////////////////////////////////////////////// 

วันดินโลก.  อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง จ.ยะลา พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ เพื่อปรับพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “เอามื้อสามัคคี” เนื่องใน “วันดินโลก” ปี 2566 โดยมี โรงเรียนการเมือง ศูนย์สันติวิธี ปลัดอาวุโสอำเภอกาบัง ช่าง อบต.บาละ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อส.ร่วมปรับพื้นที่ ณ พื้นที่ หมูที่ 1 บ้านบาละ ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา 

////////////////////////////////////////////// 

อาซูรอสัมพันธ์.     อามีร ซาริคาน รอง นายกเทศบาลตําบลรือเสาะ พร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรือเสาะ ผู้นำชุมชน คณะกรรมการชุมชน และประชาชนแต่ละชุมชน ร่วมกิจกรรม “การกวนอาซูรอสัมพันธ์” ประจำปี 2566 ในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามและการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีกัน ณ ชุมชนบือแนยาโมง ชุมชนประชาพัฒนา ชุมชนสันติสุขนะห์ฎอ ชุมชนยาและเบาะ และ 

///////////////////////////////////////////// 

ต้อนรับ.   อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการบริหารสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย/ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา ต้อนรับ คณะนักธุรกิจปลากะตัก (KTM) มาจากกรุงเทพฯ – ปริมณฑล จำนวน 18 คน ที่ได้ลงมาท่องเที่ยวประทับใจ ในพื้นที่ อ.เบตง – อ.เมืองยะลา จ.ยะลา – อ.โคกโพธิ์ – อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี เป็นครั้งแรก สร้างรอยยิ้มให้กับคณะที่ได้ลงมาในครั้งนี้อีกด้วย ณ บ้านศรียะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 

////////////////////////////////////////////////// 

แข่งกีฬา.  เสาวภาพัชร ภู่ประภาดิดก รอง ผอ.สพป.ตรัง เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิด การแข่งขัน กีฬากลุ่มโรงเรียนสุโสะ บ้านนา ปีการศึกษา 2566 ณ สนามกีฬาโรงเรียนบ้านห้วยม่วง ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยมี อาคม บริสุทธิ์  ประธานกลุ่งกล่าวราบงาน 

/////////////////////////////////////////////////