กีเยร์โม ซอนไลน์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ‘โอเชียนเกต’ กับ สต็อกตัน รัช ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือดำน้ำ ‘ไททัน’ ที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุเรือระเบิดใต้ทะเลระหว่างลงดำเพื่อไปชมซากเรือไททานิกที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก แต่เขาแยกตัวออกไปเมื่อปี 2556 

ต่อมาเขาก็รับตำแหน่งผู้ก่อตั้งและประธานของมูลนิธิ ‘ฮิวแมนทูวีนัส’ (Human2Venus) ซึ่งเขาอธิบายว่ามันคือการลงทุนส่วนตัวเกี่ยวกับการจัดตั้งที่อยู่อาศัยอย่างถาวรสำหรับมนุษย์บนดาวศุกร์

กีเยร์โม ซอนไลน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘โอเชียนเกต’ และ ‘ฮิวแมนทูวีนัส’

นักธุรกิจผู้ถือกำเนิดในอาร์เจนตินาวัย 57 ปีรายนี้ ชี้ว่าองค์การนาซาเคยเผยข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะสามารถอาศัยอยู่บนดาวศุกร์ แต่ต้องอยู่ลึกลงไปจากพื้นผิวประมาณ 30 ไมล์หรือเกือบ 50 กม. 

ซอนไลน์ วาดฝันถึง “อาณานิคมลอยได้” บนดาวศุกร์ ซึ่งจะต้องมีความทนทานชั้นเมฆที่มีฤทธิ์เป็นกรดของดาวศุกร์ อันเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวของดาวที่ได้ชื่อว่าเป็น “ฝาแฝด” ของโลกได้

นอกเหนือจากเมฆกรด ซอนไลน์ ยังตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนนักว่าเขาจะมีวิธีให้คน 1,000 คนที่จะไปอยู่บนอาณานิคมดาวศุกร์ รอดจากแรงลมเฮอร์ริเคนที่มีความเร็วมากกว่า 360 กม./ชม. บนดาวเคราะห์แห่งนั้นได้อย่างไร

ภาพถ่ายบริเวณขั้วโลกด้านเหนือของดาวศุกร์

กระนั้น เขาก็ยังคงมั่นใจว่าภายในปี 2593 มนุษย์จะสามารถออกไปตั้งอาณานิคมและอยู่อาศัยบนดาวศุกร์ได้สำเร็จ

ในบล็อกโพสต์ที่เขาแชร์ไปยังเว็บไซต์ของฮิวแมนทูวีนัสเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ซอนไลน์ เขียนว่า เขาไม่ใช่ทั้งวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ แต่เขามีความศรัทธาอย่างที่สุดต่ออาชีพทั้งสอง เขาเชื่อเสมอว่ากลุ่มคนทั้งสองจะสามารถเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่อันตรายในอวกาศได้แน่นอน นอกจากนี้ เขายังอธิบายถึงเหตุผลที่ทางมูลนิธิเลือกทำโครงการบนดาวศุกร์นั้นเป็นเพราะว่าดาวศุกร์มีแรงโน้มถ่วงที่เหมาะสม

ดาวศุกร์ได้ชื่อว่าเป็นดาว “พี่น้อง” ของโลกเพราะมันมีขนาดและมวลที่ใกล้เคียงกับโลก และยังมีระดับแรงโน้มถ่วงที่ใกล้เคียงกันด้วย

ซอนไลน์ เขียนในโพสต์ว่า ตั้งแต่เขาอายุได้ 11 ขวบ เขาก็ฝันอยากเป็นผู้บังคับการอาณานิคมชาวโลกบนดาวอังคาร และเขาได้ใช้เวลามากกว่า 4 ทศวรรษทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยให้มนุษยชาติเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้บนดวงดาวต่าง ๆ 

มูลนิธิและโครงการฮิวแมนทูวีนัสนั้น ดำเนินงานในลักษณะเดียวกันกับโอเชียนเกต กล่าวคือเป็นการดำเนินงานด้วยทุนเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การสำรวจอวกาศมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง

ซอนไลน์ กล่าวว่า บริษัทโอเชียนเกตนั้นก็ถือว่าเป็นความฝันวัยเยาว์ของเขาเกี่ยวกับสำรวจใต้ทะเลลึกด้วยเรือดำน้ำ เนื่องจากมันมีความใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาและ รัช อาจทำได้ในอนาคตสำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ 

แต่หลังจากเรือดำน้ำไททันประสบอุบัติเหตุและทำให้ รัช เสียชีวิตพร้อมผู้โดยสาร ในตอนนี้ก็เหลือเขาเพียงคนเดียวที่จะได้ไล่ตามความฝันนั้น

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Facebook / gsohnlein