เป็นอันว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีในซีซันนี้อย่างแน่นอน แต่ยังมีลุ้นอีกว่าจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่? จากปัญหาหุ้นไอทีวี และนโยบายแก้ไขมาตรา 112

หลังจากนี้ “เกมการเมือง” จะย้ายมาอยู่ที่พรรคอันดับ 2 เป็นคิวพรรคเพื่อไทยที่มีแคนดิเดตนายกฯ อยู่ 3 คน (เศรษฐาแพทองธารชัยเกษม) จะเสนอชื่อใครให้สมาชิกรัฐสภาลงคะแนนผ่านไม่ผ่าน!

“พยัคฆ์น้อย” วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนมีการโหวตเลือกนายกฯในวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ค. 66 ว่าแนวทางน่าจะเป็นไปคือ 1. พรรคเพื่อไทยต้องคุยกับพรรคก้าวไกลให้รู้เรื่องว่า จะเอาอย่างไรกับกรณี 112 จะลดเพดาน 112 ลงหรือไม่? ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดเพดาน แต่ยังจะ “แพ็กคู่” ไปแบบนี้ พรรคเพื่อไทยไปไม่รอด!

2.พรรคเพื่อไทยจะต้องถึงขนาดยอมเสีย “ขุน” 1 ตัวหรือไม่? ในการโหวตวันที่ 27 ก.ค. เพื่อแสดงให้เห็นว่าไปไม่รอดนะ! ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลแบกหาม 112 อยู่ด้วย!

3.พรรคเพื่อไทยคงปิดเกม ไม่ยืดเยื้อไปจาก 27 ก.ค. ซึ่งแน่นอนว่าต้องโดนด่า! เพื่อเอาเก้าอี้นายกฯมาอยู่กับพรรคไว้ก่อน โดยมีตัวเลือกที่จะเข้ามาสนับสนุนเบอร์ต้นๆ คือ พรรคประชาชาติ- ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ-ชาติไทยพัฒนา-รวมไทยสร้างชาติ หรืออาจมี “ขาใหญ่” จากประชาธิปัตย์ด้วย เนื่องจากเคยเสนอว่ามี ส.ส. 17-18 เสียง ขอกระทรวงเกษตรฯกระทรวงเดียว จะไม่วุ่นวายกับใครเลย! ปล่อย “ชวน-จุรินทร์” เฝ้าประชาธิปัตย์ไป!

4.ก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 แว่วว่าคนที่มาขอดีลกับพรรคเพื่อไทย ผู้อยู่เบื้องหลังพรรครวมไทยสร้างชาติ (บิ๊ก ด.+ทุนพลังงาน) ดังนั้นหลังเลือกตั้ง “ลุงตู่” จึงต้องวางมือ เพราะไม่ได้สนับสนุนเรื่องเงิน

5.คิวต่อไปคือกล่อมให้ “ลุงป้อม” วางมือ! แต่ส่งน้องชายคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มาเป็น รมว.มหาดไทย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ต้องติดกับดักอยู่ที่ “2 ลุง” และ “สภาปรสิต” 250 คน

สภาพปัจจุบันด้วยจำนวนพรรคการเมืองที่มี ส.ส. แบบเบี้ยหัวแตก! ไม่ว่าใครขยับไปทางไหน ย้ายขั้วไปทางใด ต้องโดนด่า-เจ็บตัวแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าจะลากยาวกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่มี “ผู้นำ” ประเทศตัวจริงไปอีก 10 เดือน มันเป็นไปไม่ได้ ไม่คุ้มกับความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และความเสียหายทางเศรษฐกิจ

วันนี้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถบานเบอะ! บ้านคอนโดฯขายไม่ออก! งบประมาณปี 67 ยังไม่ได้พิจารณากันเลย ส่วน “นายกฯ รักษาการ” อยู่ไปแค่ประคับประคองเท่านั้น ทำอะไรมาก ๆ ไม่ได้

ดังนั้นเมื่อนายพิธาจบไปแล้ว ทั้ง ส.ว.ลากตั้งและบางพรรคการเมือง ควรหยุดอ้างเรื่อง 112 มาเป็นเงื่อนไขในการโหวตนายกฯ เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้เสียที หลังจากเลือกตั้งผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว

ประเภทที่ว่าได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 5% แสดงให้เห็นถึงความนิยมพรรค และตัวแคนดิเดตนายกฯ มันต่ำ! ดังนั้นอย่าตั้งเงื่อนไข อย่าตั้งหน้าตั้งตาต่อรองเหมือนพ่อค้าวาณิช ให้การโหวตเลือกนายกฯ จบยากเลย!!

———————–
พยัคฆ์น้อย