เมื่อวันที่ 16 ก.ค. น.ส.เก๋ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พร้อมด้วย นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ได้นำลูกสาว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2/2 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งในอ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำจ.ตรัง เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากที่ลูกสาวได้ถูกคุณครูประจำชั้น ทำโทษโดยการถอดกระโปรงกลางห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนๆทั้งหญิงและชายในชั้นเรียนกว่า 28 คน โดยอ้างว่าลูกสาวเขียนอักษรภาษาอังกฤษตัว T ไม่สวย และได้นำกระโปรงมาวางตั้งไว้บนพื้นหน้าชั้นเรียน พร้อมกับให้ลูกสาวกลับไปนั่งเขียนตัวที T ที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในตัวเดียว

น.ส.เก๋ กล่าวด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือว่า เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ลูกสาวกลับจากโรงเรียนก็ได้มาเล่าตนฟังว่า วันนี้ถูกคุณครูถอดกระโปรงออกไปตั้งที่พื้นหน้าชั้นเรียน ตนจึงถามว่าลูกทำอะไรผิด ลูกบอกว่าเพราะหนูเขียนตัว T ไม่สวย จึงลงโทษด้วยการถอดกระโปรง ทำให้ขณะนั้นลูกร้องไห้ทั้งวัน หลังจากนั้นก็ได้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในเท่านั้น โดยที่ลูกพยายามใช้ผ้ากั้นเปื้อนปิด ก่อนจะเขียนตัว T จนเสร็จ

น.ส.เก๋ กล่าวต่อว่า ต่อมาคุณครูก็อนุญาตให้มาหยิบกระโปรงไปใส่กลับ หลังจากทราบเรื่องในวันเดียวกันตนก็ได้ทักไลน์ไปถามคุณครู แต่คุณครูกลับปฎิเสธว่าไม่ได้ทำและภายในห้องไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น แถมยังชมว่าน้องเป็นเด็กน่ารักและปกติ ซึ่งได้รับข้อมูลมาไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ลูกเล่า

น.ส.เก๋ กล่าวต่ออีกว่า ถัดมาหลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค. ลูกได้เลิกเรียนและกลับมาบอกว่า คุณครูได้พูดกับลูกว่า “กลับไปฟ้องแม่อีกไหม ถ้ากลับไปบอกแม่อีก ก็ไม่ต้องนอนกลางวันแล้ว” ตนจึงเกิดความไม่สบายใจ เพราะลูกร้องไห้ และพูดตลอดว่าไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว เพราะว่ากลัวคุณครู และอับอายเพื่อนๆ ตนจึงได้โทรสอบถามผู้ปกครองและเพื่อนของน้องคนอื่นๆที่เรียนอยู่ในห้องเดียวกัน ซึ่งเด็กทุกคนเล่าตรงกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกว่าคุณครูคนดังกล่าวชอบดูกางเกงในของเด็กในห้อง

“ต่อมาตนก็ได้โทรฯหาผอ.โรงเรียน เพื่อบอกเล่าในเรื่องนี้ หลังจากนั้นคุณครูคนดังกล่าวก็ได้โทรกลับมาหาตน โดยในตอนแรกก็ปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ พยายามบอกว่าลูกตนเรียบเรียงเหตุการณ์ผิด แต่ตนก็พยายามซักถามและพยายามบอกว่าให้พูดความจริง หากบอกความจริงตนจะไม่เอาเรื่อง คุณครูจึงพูดยอมรับสารภาพว่าถอดกระโปรงจริง แต่ถอดลงมาแค่เพียงหัวเข่า และให้ยืนอยู่อย่างนั้น แต่ก็ยังเป็นการยอมรับแบบไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะยังไม่ได้เป็นเหตุการณ์บอกเล่าที่ตรงกับที่ลูกสาวบอก ซึ่งตนจะรู้ดีว่าลูกตนจะไม่พูดโกหก ก็เลยอยากให้คุณครูออกมาพูดความจริงว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือว่าเป็นการลงโทษที่ผิดวิธีและผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู แต่หากจะทำโทษในลักษณะอื่นตนก็ไม่ได้ขัดอะไร” คุณแม่กล่าว

คุณแม่ยังกล่าวด้วยอีกว่า ทั้งนี้ตนก็ได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีไว้กับ ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ไว้แล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ค. และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเลขคดีในเร็ววัน เพื่อให้เรื่องที่ร้องทุกข์เข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย และตนอยากให้ดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด และให้คุณครูออกมาชี้แจงรับผิดและพูดความจริงในสิ่งที่ทำลงไป และอยากจะฝากไปถึงโรงเรียน ให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพของครูรายดังกล่าวอีกด้วย เพราะตอนนี้ลูกยังมีอาการตกใจและกลัวอยู่ และรู้สึกอับอายเด็กผู้ชายคนอื่นๆเห็นหมด ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน และกลัวคุณครูคนดังกล่าวไปเลย เมื่อลูกได้ยินว่าตนจะโทรฯหาครู ลูกก็กลัวและนำมือถือของแม่ไปแอบ โดยวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) ตนก็จะเข้าไปสอบถามและหาข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามกับทาง ผอ.โรงเรียนฯ ดังกล่าว ระบุว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและได้สืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยคุณครูยืนยันกับตนว่าไม่ได้ทำพฤติกรรมเช่นนั้น และในวันพรุ่งนี้ผู้ปกครองได้นัดตนเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง.