นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาอนาคตเศรษฐกิจไทย ใครชี้ชะตา ว่า รัฐบาลยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงขยายตัวเป็นบวกได้ แม้จะไม่ได้ขยายตัวสูงเหมือนในอดีต หลังจากได้มีการคลายล็อกกิจกรรม และกิจการต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา โดยเชื่อว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศสามารถควบคุมได้จนทำให้มีตัวเลขการติดเชื้อลดต่ำลง จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ปีนี้ที่ขยายตัว 7.5% และยังส่งผลดีต่อไปถึงปีหน้าให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น
“ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไว้ว่า เศรษฐกิจต้องเดินหน้าต่อ เราเห็นแสงสว่างภายในอุโมงค์แล้ว เพราะตอนนี้ประเทศไทยมีโอกาสที่ดีกว่าเดือน เม.ย.ปีก่อน เนื่องจากเดือน เม.ย.ปีนี้ เรามีวัคซีนเข้ามาช่วยบรรเทาผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้มีโอกาส มีความหวัง ขอเพียงร่วมมือกันป้องกันการแพร่ระบาด และคนชี้ชะตาเศรษฐกิจจากนี้ ไม่รัฐบาล เอกชน หรือประชาชน แต่เป็นทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน และเมื่อเราผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้เราจะโตไปได้ด้วยกันพาเศรษฐกิจไทยถึงฝั่ง และมีความเข้มแข็งกลับมาได้เหมือนเดิม”
ส่วนการช่วยเหลือ ตลอดช่วงการระบาดของโควิดกว่า 18 เดือนรัฐบาลมีมาตรการออกมาต่อเนื่องเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยเหลือให้ทุกคนผ่านวิกฤติไป ล่าสุดยังมีเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ยังเหลืออยู่ประมาณ 4 แสนล้าน ซึ่งเพียงพอกับการฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบ โดยจะออกมาตรการสนับสนุนทันทีเมื่อมีการผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ