เมื่อวันที่ 8 ก.ย. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ขบวนการดังกล่าวใช้โอกาสนี้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเครือข่ายเหล่านี้ใช้เส้นทางใน จ.ระนอง เข้ามาในกรุงเทพฯ โดยตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมาได้ 40 คน มีนายหน้าทั้งคนไทยและชาวเมียนมาพาเข้ามาในไทย และนำไปพักไว้ในป่าละเมาะให้คนส่งอาหารและน้ำ จากนั้นจะมีรถยนต์มารับแรงงาน ไปส่งต่ออีกทอดหนึ่ง โดยมีรถยนต์นำทางเพื่อเฝ้าระวังด่านเจ้าหน้าที่
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตม.ตาก ไจับกุมแรงงานเมียนมา 44 คน ขณะเดินลัดเลาะทิวเขาเข้ามาใน อ.บ้านตาก จ.ตาก โดยมีนายเปาแป็ง เป็นนายหน้าชาวเมียนมา รับสารภาพว่าจะได้ค่าหัวรายละ 200 บาท เพื่อนำพาแรงงานไปรับจ้างทำงานย่านบางแค เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหา เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, ให้ที่พักและให้การช่วยเหลือประการใดๆ กับคนต่างด้าว
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตม.ระนอง จับกุมเจ้าของห้องเช่า ให้ที่หลบซ่อนผู้หลบหนีเข้าเมือง 14 คน โดยทั้งหมดลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.ระนอง มาพักรอในป่าสวนปาล์ม ก่อนมาหลบซ่อนในห้องเช่าดังกล่าว นอกจากนี้ ตม.เชียงใหม่ และ ฝ่ายสืบสวน ตม.5 จับกุมชายชาวเมียนมา สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมเตรียมขยายผลที่มาของผู้ต้องหา เพราะพูดภาษาเมียนมาไม่ได้เลย พูดได้แต่ภาษาจีน
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าการจับกุมแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรการผ่อนคลายของทางรัฐบาล เนื่องจากจำนวนก่อนและหลังผ่อนคลายมาตรการไม่ได้แตกต่างกัน อีกทั้งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง