4 ก.ค.ที่ผ่านมา สภามีมติเอกฉันท์ ให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ 1 ใน 8 พรรคร่วมเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยไร้คู่แข่ง นายวันนอร์ หวนคืนนั่งบัลลังก์สภาครั้งที่สองในวัย 79 ปี แบบสวยงาม ย้อนไปหนึ่งวันก่อน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นั่งแถลงข่าวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ได้ข้อสรุปร่วม 4 ข้อ

1.ทั้ง 2 พรรคเห็นชอบเสนอชื่อ นายวันนอร์ เป็นประธานสภา โดยพรรคก้าวไกลเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และพรรคเพื่อไทยเป็นรองประธานสภาคนที่ 2

2.ทั้งประธานสภาและรองประธานสภาต้องผลักดันให้รัฐสภาไทยโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้

3.ข้อตกลงในครั้งนี้เพื่อสร้างเอกภาพ 8 พรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ อย่างสุดความสามารถตามข้อตกลง MOU ที่ได้แถลงเมื่อ 22 พ.ค. 2566

4.สองพรรคเห็นชอบเสนอ ก.ม.เพื่อประชาชน รวมถึง ก.ม.นิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง กฎหมายปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ร.บ. ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ

หลังนายพิธาแถลงจบ นักข่าวไปถาม สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่ามีการสอดไส้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับปฏิรูปกองทัพด้วย เป็นเรื่องเลย นายสุทินดันบอกไม่รู้มาก่อนว่ามี ก็อ้าว นิรโทษกรรมคดีการเมืองให้ประชาชน ข้อตกลงก็บอกชัด หรือปฏิรูปกองทัพ เพื่อไทยโดนรัฐประหารมา 2 ครั้งติด ไม่คิดปฏิรูปกองทัพก็เตรียมสูญพันธ์ุเหอะ ปกติชื่นชม สุทิน คลังแสง อยู่นะ แต่ไม่รู้ทำไมจุดยืนชอบแกว่ง พรรคนี้ “เอาลุง ไม่เอาลุง” ก็เป็นบทเรียนแล้ว ไม่ยักเข็ดนะ

ส่วนเก้าอี้รองประธานสภาคนที่ 1 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นพ.ปดิพัทธ์ สันติภาดา จากก้าวไกล ชนะ นายวิทยา แก้วภราดัย จาก รทสช. 312 เสียงต่อ 105 เสียง งดออกเสียง 77 รองประธานคนที่ 2 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เพื่อไทย ชนะไปแบบไร้คู่แข่ง ตามคาด

ถือเป็นด่านทดสอบการผนึกกำลังครั้งแรกของ 8 พรรค ไม่มีใครหักหลังใคร รัฐบาลเสียงข้างน้อย ฝันสลาย

กลับมาที่ชัยชนะของนายวันนอร์ชนิดไร้คู่แข่ง แสดงถึงบารมี ความเป็นผู้นำ มีวุฒิภาวะ มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับของส.ส.ในสภา แต่นอกสภา คือนายวันนอร์ มีจุดยืนที่มั่นคงในฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ใช่ดีแต่ปาก แล้วเป็นนั่งร้านเผด็จการ คงจำได้ วันแถลงข่าว 8 พรรคร่วม นายวันนอร์นี่ล่ะ พูดได้กินใจยิ่ง

9 ปีที่แล้วผมต้องนั่งในห้องประชุมกองทัพบกด้วยความเศร้าใจ ฟังผบ.ทบ. ซึ่งคือนายกฯ ในขณะนี้ ประกาศยึดอำนาจ รู้สึกทำไมคนไทย 70 กว่าล้านถูกประกาศยึดอำนาจง่าย ๆ อย่างนี้หรือ ขอให้ปฏิวัติเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ ในเมื่อท่านให้โอกาสคนทำปฏิวัติมา 9 ปี ผมอยากวิงวอนทุกฝ่ายให้โอกาสพรรคฝ่ายประชาธิปไตยและนายพิธาได้ทำหน้าที่ กระจายอำนาจ กระจายความหวัง และกระจายความสุขให้ประชาชนของเราทุกคนบ้าง

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ข้อความ

อีกตอนหนึ่ง คือเสียงเรียกร้องต่อสื่อ ให้ไปถามความเห็นของฝ่ายประชาชนว่า ต้องการอะไรบ้างหลังมีฉันทามติในคูหาเลือกตั้งแล้ว ไม่ใช่เอาแต่ถามฝ่ายสืบทอดอำนาจว่าต้องการอะไร ปลุกสำนึกสื่อที่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลังให้กลับมาอีกครั้ง

ด่านหินที่จะโหวตนายพิธาเป็นนายกฯ ในรัฐสภาที่มี ส.ว. ลากตั้งร่วมโหวตด้วย 14 ก.ค. นี้ นายวันนอร์ บอกว่า คงต้องโหวตกันอย่างน้อย 2-3 ครั้ง หากไม่ผ่าน 8 พรรคคงต้องไปพูดคุยเพื่อหาทางออกอีกครั้ง ขณะนายพิธาบอกว่าเชื่อว่า ตนมีเสียง ส.. เพียงพอ แต่หากไม่ถึง ก็มีแผนไว้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป แต่ยังบอกไม่ได้ ก็ถือเป็นสัปดาห์อันตราย?!?

แต่เชื่อเหอะ นายวันนอร์นี่ล่ะ คนที่จะทำหน้าที่ประธานฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างสง่างาม เป็นท่านประธานที่ประชาชนไหว้ได้อย่างสนิทใจ และเป็นท่านประธานที่เคารพแห่งยุคสมัย… ของจริง

———————-
ดาวประกายพรึก