นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร และโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า อธิบดีกรมศุลกากร สั่งการให้กองสืบสวนและปราบปรามร่วมกับ สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดด่านศุลกากรวังประจัน ด่านศุลกากรสะเดา ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรตากใบ และ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก สืบสวนหาข่าวและสกัดกันขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล อย่างเข้มข้น โดยให้ดำเนินการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับแหล่งที่มา วิธีการลักลอบ เส้นทาง สถานที่เก็บรวบรวม และแหล่งจำหน่ายในพื้นที่ รวมถึงดำเนินการตรวจค้น-จับกุม ตามที่ได้รับข้อมูลจากการสืบสวนหรืองานการข่าว
นอกจากนี้ให้ประสานข้อมูลงานการข่าว และการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานในสังกัดกรมฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและสนธิกำลังกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่ เช่น สรรพสามิตภาคที่ 9 ในการสืบสวนหาข่าว ตรวจค้น และจับกุมขบวนการค้าบุหรี่หนีภาษี ตามที่ได้รับการร้องขอ รวมถึงให้ลาดตระเวนด้วยรถยนต์และเรือตรวจการณ์ ตามแนวชายแดนและลำน้ำที่เป็นพรมแดนธรรมชาติกันระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ตลอดจนตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด ในขณะหรือหลังผ่านพิธีการศุลกากร ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการนำบุหรี่ หรือสุราจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
นายชัยยุทธ กล่าวว่า กรมฯจะจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการประจำในแต่ละพื้นที่ ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือเป็นไปตามที่หน่วยงานอื่นร้องขอ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติการฯ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 รวมถึงช่องทางในการแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ในกรณีที่พบเห็น หรือทราบข่าวการลักลอบนำเข้า-ส่งออกบุหรี่ที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
“ผลการดำเนินการของกรมศุลกากรในการสกัดกั้นการลักลอบบุหรี่ที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ทำให้กรมศุลกากรสามารถจับกุมบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 64 นี้ เดือน ต.ค.63-ส.ค.64 กรมฯ ได้จับกุมบุหรี่ได้ทั้งหมด 647 คดี คิดเป็นมูลค่า 103 ล้านบาท”