การเมืองไทยที่ยังอยู่ในช่วงของสุญญากาศ รอยต่อระหว่างเฝ้ารอ รัฐบาลใหม่ เข้าบริหารประเทศ หลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผล 500 .. จากการเลือกตั้ง 2566 อย่างเป็นทางการ และให้ ส..ทั้งหมดมารายงานตัว ถ้าเป็นไปตามไทม์ไลน์ จะเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 .. จากนั้นวันที่ 4 .. จะเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เพื่อเลือก ’ประธานรองประธานสภาผู้แทนราษฎร“

แต่เกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิค่อนข้างระอุในซีกของฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค (ส.ส.312 เสียง) รอยร้าวระลอกใหม่ทำท่าจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จากปมร้อนศึกชิง เก้าอี้ประมุขนิติบัญญัติ ระหว่าง ก้าวไกล-เพื่อไทย มาพร้อมกระแสถูกปล่อยออกมาแทบจะทุกช่องทาง มีทั้ง ดิสเครดิต-ดีลลับ-ดีลรัก-สูตรตั้งรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือน พ.ค. แฟนคลับทั้ง 2 พรรค เคยออกมากระตุกเตือนดัง ๆ เพราะกลัวจะไม่ได้เห็น ฝ่ายประชาธิปไตย ขึ้นเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ หลังจากต้องเฝ้ารอมานาน 9 ปีเต็ม ร่วมกันเผด็จศึกบรรดาพรรคการเมือง ฝ่ายอิงแอบรัฐประหาร จนชนะเลือกตั้งได้เสียงมหาชนเข้าป้ายมาอันดับ 1 และ 2 ไม่ทันจะจับมือกันบริหารประเทศตามที่ไปหาเสียงเอาไว้ แค่ประเดิม เก้าอี้ประธานสภา ทั้ง 2 พรรคแกนนำก็เล่นเกมต่อรองเก้าอี้กันดุเดือด

ยังดีผลเจรจาปัญหารอบนี้ ถูกเผยแพร่กระจายให้สื่อรีบสยบลือด้วยสูตร เพื่อไทย 15+2 (รัฐมนตรี+รองประธานสภาคนที่ 1 และคนที่ 2) และ ก้าวไกล 13+1+1 (รัฐมนตรี+ประธานสภา+นายกรัฐมนตรี) ยืนยันเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯคนที่ 30 (เชิงผา ปิดต้นฉบับล่วงหน้าวันที่ 3 ก.ค.ไม่รู้ผลจะเป็นไปตามสารพัดสูตรที่ถูกปล่อยออกมาหรือไม่?)

ถือว่ากองเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตยค่อยโล่งใจเมื่อเห็นข่าวพูดคุยตกลงกันได้ เพราะไม่มีใครอยากให้เสียโอกาส อุตส่าห์ไปลงคะแนนเสียงเลือกทั้ง 2 พรรค เข้ามาเพื่อหวังให้จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ หลังจากปล่อยให้ ฝ่ายอนุรักษนิยมอิงแอบรัฐประหาร นำรัฐนาวามาหลายปี แต่ก็ไม่สามารถ ปฏิรูปประเทศชาติ ได้จริงตามฝัน

หนำซ้ำยังทิ้ง มรดกบาป อีกสารพัดเรื่องหมกเอาไว้ให้ จึงกลายเป็นหน้าที่ของ พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งกำลังนับถอยหลังเป็นรัฐบาลใหม่ นอกจากเข้ามาบริหารแล้วคงต้องเข้าไปตรวจสอบแก้ปัญหา โดยเฉพาะช่วงกำลังเปลี่ยนผ่านรัฐบาล มีหลายกระทรวงใหญ่ต่าง ถลุงงบประมาณทิ้งทวนกันแบบสนุกมือ!!

ข้าราชการประจำหลายหน่วยงานต่างส่ายหน้า รับไม่ได้กับพฤติกรรมของบรรดา กลุ่มการเมืองเก่า จัดเต็มสารพัดโครงการฯ ทั้งเร่งใช้งบประมาณ จัดซื้อจัดจ้างจนผิดสังเกต ไม่เว้นแม้ทำเรื่องขอ เบิกงบกลาง ไปใช้ในโครงการฯ ต่าง ๆ ที่รีบเสนอจัดทำขึ้นมา เมื่อข้าราชการหลายคนทนดูไม่ไหว พยายามส่งเรื่องร้องเรียนไปให้สื่อมวลชน บ้างก็ส่งข้อมูลเอกสารไปตามเพจต่าง ๆ ใน
โซเชียลช่วยตีแผ่

เชื่อว่าตอนนี้ เริ่มมีข้าราชการออกมาร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลของแต่ละกระทรวง ทยอยส่งไปให้ “พรรคก้าวไกล” ที่กำลังจะได้เป็นรัฐบาลรับทราบปัญหา !!

หลายกระทรวง เร่งรีบจัดโครงการฯ, งานอีเวนต์ต่าง ๆ รูปแบบแทบจะไม่ค่อยแตกต่าง ราวกับก๊อบปี้กันมา ยังไม่รวมทริปไปดูงานต่างประเทศแบบ คณะใหญ่ แถวยุโรป อเมริกา ฯลฯ บางกระทรวงใช้งบประมาณจ้าง ข้าราชการเกษียณ แบบเกรงใจกัน ไม่ได้เป็นตำแหน่งเฉพาะทางที่สำคัญหรือขาดแคลน ทำกันแบบเคยชินกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่คำนึงถึง นศ.จบใหม่ จำนวนมากที่กำลังหางาน พลอยถูกตัดโอกาสไปด้วย

ถือว่าเป็นโอกาสดี รัฐบาลใหม่กำลังจะเข้ามา คงพอได้เห็นเค้าลางปัญหาต่าง ๆ ของการใช้งบประมาณแบบไม่ชอบมาพากล จากข้อมูลข้าราชการที่รับพฤติกรรมนี้ไม่ไหว จึงขออย่ามองข้าม!! นอกจากจะต้องตามไปตรวจสอบเอาผิดแล้ว ที่สำคัญเมื่ออยากมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีงาม ก็ห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาด

——————–
เชิงผา