นักมานุษยวิทยาเคยเปรียบว่า ไทยเป็นเช่นสังคมลิเก พระเอกพิมพ์นิยมต้องอ้อนเก่ง จีบปากจีบคอ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ดั่งสาวงาม ชม้ายตาแต่ละทีแม่ยกหัวใจละลายยิ่งฉอเลาะ (ตอแหล) ขั้นเทพ ยิ่งแฟนตึม ดูผิดรูปผิดร่างไปหมด ฉันใดก็ฉันนั้น พระเอกลิเกในสังคมไทยก็เดินเพ่นพ่านเปิดการแสดงเรียกเสียงปรบมือได้บ่อย ๆ เป็นภาพลวงตาสุดงดงาม

พรุ่งนี้รัฐสภาจะมีการโหวตวาระ 3 ร่าง รธน.แก้ไขเพิ่มเติมฉบับปี 2560 หลังผ่านวาระ 2 แล้วโดยตัดมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องทิ้งหมด เหลือแค่แก้ ม.83 และ ม.91 เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง โดยให้มีบัตร 2 ใบ ส.ส.ใบหนึ่งและปาร์ตี้ลิสต์ใบหนึ่ง กับแก้จำนวน ส.ส.เขตจาก 350 เป็น 400 เขต ปาร์ตี้ลิสต์จาก 150 คนเป็น 100 คน แบบ รธน. ปี 2540 เพราะมีปัญญาทำได้แค่นี้ ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้า

ก่อนจะถึงวาระนั้น จู่ ๆ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ลากตั้ง ก็ออกมาปูดว่า ส.ว.ลากตั้งมีความเห็นร่วมกันว่าการ แก้ไข รธน.ครั้งนี้เป็นผลประโยชน์ของพรรคการเมืองและนักการเมืองล้วน ๆ ประชาชนไม่ได้อะไรด้วยและยังย้อนรอยกลับไปปี 40 ไม่ได้แก้เพื่อเดินหน้าต่อแต่เป็นการถอยหลังด้วย จึงมีสัญญาณแรงว่า ส.ว.อาจไม่รับร่างครั้งนี้ ฟังแล้วมันสุดทนจริง ๆ ประชาชนไม่ใช่ควายนะ

ส.ว.จะคิดแบบนี้กี่คนไม่รู้  แต่ที่พูดออกมาเป็นการ “เอาดีใส่ตัวโยนชั่วให้คนอื่นโดยแท้จริง” เอากันตั้งแต่ที่มามั้ย ใครลากตั้ง 250 ส.ว.ชุดนี้เข้ามา คสช.ใช่มั้ย มุบมิบตั้ง กก.ขึ้นมาเลือกพวกพ้องญาติพี่น้องยิ่งกว่า “สภาผัวเมีย” ที่เคยด่าทอ นั่นอย่างน้อย ผัวลากตั้ง เมียยังเลือกตั้งมา แต่นี่กระชากลากถูเข้ามาแบบไม่อายฟ้าดิน แม้แต่ กก.ยังลากตั้งตัวเองเข้ามาเป็น ส.ว. เลย นี่ทำเพื่อประชาชนตรงไหนหรือ ตอบหน่อยเถอะ

เข้ามาแล้วทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนบ้าง นอกจากเป็นฝักถั่วให้ 3 ป.สืบทอดอำนาจต่อไปเรื่อย ๆ แม้แต่ช่วงโควิดรุนแรง ส.ว.ลากตั้งบางคนมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ลอยหน้าลอยตาว่า ผู้คนที่ล้มตายข้างถนนราวใบไม้ร่วง เป็นการจ้างออร์แกไนเซอร์มาจัดฉากเล่นละครดิสเครดิต รบ. คิดได้ชั่วร้ายขนาดนั้น พอถูกยันว่าของจริง ไม่ใช่เฟคนิวส์  กลับเงียบเป็นเป่าสาก มาคราวนี้ก็เช่นกัน

ที่จริงการส่งสัญญาณขวางแก้ รธน.หนนี้ก็ไม่แปลก เพราะ ส.ว.ลากตั้งก็ขวางทุกรูปแบบทุกวิถีทางอยู่แล้ว เคยรวมหัวคว่ำรธน.ฉบับไอลอว์ที่ประชาชนเป็นแสนลงชื่อแก้ไข เคยยื่นศาลรธน.ให้วินิจฉัยรัฐสภามีอำนาจแก้ไข รธน.หรือไม่ ก็ถ้าไม่ให้ทำในรัฐสภา จะให้ทำที่ไหน ทั้งที่ รธน.อัปลักษณ์ฉบับนี้ก็แก้โคตรยากอยู่แล้ว ก็ยังขวางไม่หยุดหย่อนอีก เพราะอะไร เพราะ ส.ว.ลากตั้งได้ประโยชน์เสวยอำนาจจาก รธน.ฉบับนี้เต็มทุกเม็ดน่ะสิหรือไม่จริง?!?

ก็ใช่ แก้รธน.เที่ยวนี้ เป็นผลประโยชน์พรรคการเมือง แล้วไง ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในสนามเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ได้ลากตั้งมาแบบ ส.ว.นะ จะลงทั้งผัวเมียหรือโคตรเหง้าเหล่ากอ ประชาชนเลือกเองได้ แล้ว รธน. ปี 40 ไม่ดีตรงไหน ส.ว.มาจากเลือกตั้งนะ พรรคการเมืองเข้มแข็ง แข่งกันด้วยนโยบายที่ตรงใจประชาชน รบ.ก็เข้มแข็งอยู่ครบ 4 ปีเป็นครั้งแรกใน ปวศ.การเมืองไทย จะมีที่เสียค่าโง่ ก็เพราะมีองค์กรอิสระมากมายนี่ล่ะ แต่อย่างน้อยนี่ล่ะ การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริง ยอมรับมั้ย

หรือจะให้มีแต่ งูเห่า กับ ส.ส.โสเภณี กินกล้วย แลกแคชเชียร์เช็ค แลกรถหรู  ขายจิตวิญญาณกันง่าย ๆ แบบ รธน.ปี 60 ที่คุยโม้ว่า เป็นฉบับปราบโกง แต่ก็แค่ “ปฏิรูปการเมือง” เล่นลิเกหลอกคนไทยไปวัน ๆ ดีที่โควิดทำให้ประชาชนตาสว่างว่า 7 ปี ประเทศเดินหน้าหรือถอยหลังลงเหวกันแน่ ส.ว.ช่วยออกไปเบิกเนตรถามประชาชนบ้างก็ได้นะ อย่าอยู่แต่ในกะลา มันเปลืองภาษีปีละตั้ง 600-700 ล้าน อยู่ครบเทอม 5 ปีปาเข้าไป 3,000-4,000 ล้าน

จะคว่ำจะหงาย ก็เชิญตามสบาย เพราะที่สุด วุฒิสภานี้ก็เป็นแบบที่นักข่าวสภาตั้งให้ว่า สภาปรสิตอาศัยอยู่ในสภา แต่กลับนำมาซึ่งพิษภัยร้ายแรงแก่ฝ่ายนิติบัญญัติ เอาแต่กัดกร่อนประชาธิปไตย และเป็นนั่งร้านต่อแขนขา “ระบอบปรสิต” ของ 3 ป. ก็เท่านั้นเอง?!?.

——————
ดาวประกายพรึก