ประวัติศาสตร์ ถูกเขียนไว้หลายบท โดย “เจ้าเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ 6 ปีที่ผ่านมา ในการผจญภัยแดนซามูไร กับศึกเจลีก

ชนาธิป ไปชิมลางกับฟุตบอลเจลีกครั้งแรก ในวัย 24 ปี ตอนกลางปี 2017 “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ปล่อยตัวไปร่วม “นกฮูก” คอนซาโดเล ซัปโปโร ในช่วงเลก 2 ของฤดูกาล ด้วยสัญญายืมตัว

แม้จะปรับตัวพอสมควร แต่สุดท้ายก็ตั้งลำได้ ยึดตำแหน่งตัวจริง เป็นกำลังสำคัญของทีม

ฟอร์มของ ชนาธิป ทำให้ คอนซาโดเล ไม่กล้าลีลามาก ตัดสินใจทุ่มเงินซื้อตัวขาดจากเมืองทอง ในเดือน ก.ค.ปี 2018

ค่าตัวมโหฬาร สำหรับนักเตะไทย รายงานระบุว่าคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 80 ล้านบาท

นักเตะร่างเล็กจากนครปฐม ตอบแทนค่าตัวที่ คอนซาโดเล จ่ายให้ เมืองทอง อย่างคุ้มค่าทุกเยน ปี 2018 โชว์ฟอร์มโดดเด่นสุดๆ พาทีมมีลุ้นโควตาเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจบด้วยอันดับ 4 เป็นอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ทีมคอนซาโดเล

ผลงานของ เจ้าเจ จับต้องได้เป็นรูปธรรม ถึงขั้นได้รับเลือกติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของเจลีก เป็นนักเตะไทยคนแรก และนักเตะอาเซียน คนแรกที่ได้รับเกียรติยศนั้น

ถือเป็นความน่าภูมิใจอย่างมาก ที่นักเตะจากทีมชาติไทย ได้รับการยอมรับจากญี่ปุ่น ชาติมหาอำนาจบอลเอเชีย และขึ้นชั้นไประดับต้นของโลก จนบรรจุเป็นทีมที่ดีที่สุดของฤดูกาล

นอกจากนั้น เขายังได้รับเลือกจากเพื่อนๆ เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ คอนซาโดเล อีกด้วย

ปีต่อมา 2019 ชนาธิป ร่วมทีมได้รองแชมป์ฟุตบอลถ้วย ลูแวงคัพ โดยเขามาได้ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศ ก่อนแพ้ คาวาซากิ ฟรอนตาเล

ช่วงปลายปี 2021 กระแสข่าว ฟรอนตาเล จะคว้าตัวไปร่วมทัพ ก็กระพือขึ้นมา โดยตอนนั้นเป็นมหาอำนาจตัวจรงของญี่ปุ่น คว้าแชมป์เจลีก 2 สมัยล่าสุด และได้แชมป์เจลีก 4 จาก 5 สมัยหลังสุด ตั้งแต่ 2017 (ยกเว้น 2019 ที่ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ของ ธีราทร บุญมาทัน แบ่งไป)

สุดท้ายแล้ว การซื้อขายจบลงด้วยดี อย่างรวดเร็ว ด้วยราคาค่าตัวที่รายงานว่า 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 130 ล้านบาท

นับเป็นราคาการย้ายทีม ในเจลีก ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ถูกบันทึกโดยนักเตะไทย

แม้ผูกพันกับ ซัปโปโร อย่างมาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องตัดสินใจว่า ถึงคราวโบยบิน เพื่อก้าวต่อไป และที่สำคัญ เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ กับทีมที่ใหญ่กว่า

ราคามหาศาล ไม่ใช่ว่า คอนซาโดเล จะต้องการเงินก้อนนั้น จึงห่อของขวัญรีบขาย แต่มีการเปิดเผยกันว่า ผู้บริหารของ คอนซาโดเล ไม่ได้อยากปล่อยตัวเจ้าเจไปเลย ถึงขั้นอ้อนวอนชนาธิป “อยู่ต่อได้ไหม” ซึ่งก็เล่นเอาเจ้าเจ น้ำตาซึม แต่ก็ต้องคิดถึงอนาคต

ดังนั้นจึงเป็นค่าตัวครั้งประวัติศาสตร์ ที่คอนซาโดเล ทีมที่ได้รับเงิน ไม่ได้เต็มใจจะได้

หลังพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2020 และเป็นคนแรกที่ได้ตำแหน่ง MVP 3 สมัย ชนาธิป ไปเริ่มต้นใหม่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ภายใต้การคุมทีมของ โทรุ โอนิกิ

ช่วงแรก เขาจะถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริง แต่ก็จะโดนเปลี่ยนออก ราวนาทีที่ 60 ตลอด ซึ่ง เจ้าตัว ก็ข้องใจ เพราะเป็นช่วงเวลาที่กำลังเครื่องร้อน กำลังเร่งผลงาน ขณะที่ฝั่ง โอนิกิ ก็อธิบายว่า เป็นเพราะอ่อนแรงลง มีผลต่อแท็คติกเกมรับ

ชนาธิป มีโอกาสน้อยลงเรื่อยๆ จากตัวจริง เป็นตัวสำรอง แล้วเริ่มจะไม่มีชื่อในทีม เหมือนหนทางเริ่มไม่เป็นดังหวัง อยู่ต่อไปโอกาสก็น้อย

ฟรอนตาเล ก็เข้าใจ แต่ไม่ยอมขาย หรือปล่อยยืม ไปยังสโมสรในเจลีก ให้มาเป็นหอกข้างแคร่ เพราะฤดูกาล 2023 ก็ยังโรมรันพันตู

การกลับไทยลีกคือทางเลือก

4 สโมสร เชื่อมโยง แสดงความสนใจ ทั้ง การท่าเรือ, บีจี ปทุม, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

สุดท้ายเป็น “เดอะแรบบิท” ที่คว้าตัวไปสำเร็จ จบสถิติการเล่นเจลีก ที่ 144 นัด ยิงไป 14 ประตู กับ 22 แอสซิสต์

ค่าตัวว่ากันว่า 70 ล้านบาท แพงที่สุดในการซื้อตัวของทีมไทยลีก ทุบสถิติเดิม 50 ล้านบาท ที่ “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ย้ายจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ย้ายไป เชียงราย ยูไนเต็ด

เตรียมกลับมาเสริมทัพให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ล่าความสำเร็จ ตั้งแต่ฤดูกาล 2023-24 เป็นต้นไป

รอบันทึกประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับวงการฟุตบอล.

*** วุฒินล ***

(ภาพจาก J.LEAGUE/Kawasaki Frontale)