ฟุตบอลลีกซาอุดีอาระเบียกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก เพราะไล่ล่าเซ็นสัญญานักฟุตบอลชื่อดังไปเล่นคนแล้วคนเล่า

คริสเตียโน โรนัลโด เปิดหัวไปก่อนตั้งแต่ต้นปี 2023 คาริม เบนเซมา ตามไปอีกคนตอนซัมเมอร์ ล่าสุดคือ เอ็นโกโล ก็องเต และนักเตะเชลซีอีกถึง 4 คน

มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องซื้อ ทำไมต้องย้าย และจะส่งผลต่อลีกยุโรปขนาดไหน วันนี้ มีคำตอบ

ทำไมลีกซาอุฯทุ่มเงินคว้านักเตะ?
“สกาย สปอร์ตส์” ของอังกฤษ วิเคราะห์ว่า ประเทศซาอุดีอาระเบีย กำลังรุกคืบเพื่อขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ “น้ำมัน”

เพราะรู้ว่าวันหนึ่งต้องหมดไป และจะไม่สามารถหล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศ

พวกเขาลงทุนโดยผ่านกองทุนใหญ่ของประเทศที่ชื่อว่า “ซาอุดีอาระเบีย พลับบลิค อินเวสเมนต์ ฟันด์” หรือ “พีเอเอฟ”

“กีฬา” คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่พวกเขาต้องการปั้นให้เติบโต และยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่า “ฟุตบอล” คือพระเอก แผนการของซาอุฯ คือสร้างวงการฟุตบอลให้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับชาติในยุโรป

ฟุตบอลคือกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซาอุฯ พวกเขาคือชาติที่มีกองเชียร์ตามไปชมมากที่สุดในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ เมื่อปีที่แล้ว

อย่าลืมว่าทีมชาติซาอุฯ ถึงกับพลิกล็อกเอาชนะ “แชมป์โลก” อาร์เจนตินา ได้ด้วยซ้ำ พวกเขาจึงเล็งเห็นว่านี่คือหนทางที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศได้

คติประจำใจง่ายๆของซาอุฯก็คือ “แทนที่จะให้ชาติอื่นมาเอาเงินจากความสนใจในกีฬาของคนในประเทศ ทำไมไม่ทำให้เงินนั้นเป็นของเรา และให้มันอยู่แค่ในประเทศของเรา”

ฉาบฉวยหรือยั่งยืน?
การรุกคืบอย่างหนักลักษณะนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น

มันคือสิ่งเดียวกับที่ “จีน” เคยทำตอนก่อตั้ง “ไชนีส ซูเปอร์ ลีก” เมื่อปี 2004 ซึ่งพวกเขาดูดนักเตะดังไปเล่นมากมาย

ตอนนั้น จีนทำเพราะเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดี ที่บอกว่าต้องการให้ จีน เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก, มีทีมชาติที่แข็งแกร่ง และลีกภายในประเทศที่ยอดเยี่ยม

แต่อยู่ดีๆ ความคิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เปลี่ยน เพราะพวกเขาไม่ชอบที่เห็นเงินของจีนไหลไปสู่ชาติในยุโรป และกระเป๋าของชาวต่างชาติ

จีน จึงสั่งยุติแผนทันที และออกกฎจุกจิกมากมายสำหรับนักเตะต่างชาติที่จะเข้าไปเล่นในจีน

เหมือนและต่างจากตอนนั้น ครั้งนี้ ซาอุฯ มีแผนระยะยาวเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่พวกเขามีเงินเยอะกว่า และ (เหมือนจะ) เอาจริงเอาจังมากกว่า

นี่จึงอยู่ในขั้นเริ่มต้นของกระบวนการ และมันไม่ใช่กระบวนการที่จะสำเร็จได้เร็ว

“สกาย สปอร์ตส์” บอกว่า พวกเขาได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซาอุฯ ต้องการนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในโลก 100 คนไปเล่นในลีกของพวกเขา

แผนของพวกเขาจึงยาวไกลมากๆ

คริสเตียโน โรนัลโด ไปแล้ว ลิโอเนล เมสซี อาจเลือกไปอเมริกา แต่ที่ตามไปแล้ว และกำลังจะตามไปก็คือ คาริม เบนเซมา, เอ็นโกโล ก็องเต, รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี, ฮาคิม ซิเยค และอีกเพียบ

ในอนาคต จึงเป็นไปไม่ยากเลยที่เราจะได้เห็น เออร์ลิง ฮาลันด์ หรือ แฮร์รี เคน ตามไปสมทบ

ทำไมต้องไป?
โมฮัมเหม็ด ฮัมดี ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลตะวันออกกลาง และอดีตผู้อำนวยการสโมสรอัล จาซีรา ในอาบูดาบี ยืนยันว่า นักเตะต่างชาติจะไม่มีปัญหาในการย้ายไปเล่นที่ซาอุฯ

“พวกเขามีโครงสร้างพื้นฐานที่สุดยอด มีประเทศที่จัดฟุตบอลโลกได้สบาย เราเห็นตัวอย่างมาแล้วที่กาตาร์ นี่คือแผนการระยะยาว ที่พวกเขาหวังจะดึงทั้งสื่อ, สปอนเซอร์, ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศ”

“มันจะไม่ใช่เฉพาะผู้เล่นที่กำลังจะเลิกเล่น แต่คุณจะได้เห็นนักเตะอายุน้อยๆที่พร้อมจะย้ายไปเล่นในลีกซาอุอย่างเต็มใจแน่นอนในอนาคต”

กระทบตลาดนักเตะยุโรปแค่ไหน?
ขอยก 2 กรณีตัวอย่างที่น่าจะให้คำตอบได้ชัดเจน คือ ซน ฮึง มิน กับ รูเบน เนเวส

ซน เป็นอีกคนที่ได้รับข้อเสนอมหาศาลจากทีมในลีกซาอุฯ แต่ยืนยันว่าจะไม่ไป และ สเปอร์ส ก็บอกว่าจะไม่ปล่อย

เหตุผลก็คือ เขายังรู้สึกท้าทายในลีกยุโรป และเชื่อว่าตัวเองยังเล่นฟุตบอลได้ดี

เนเวส ก็กำลังอยู่ในช่วงพีคเช่นกัน และมีทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด หรือกระทั่ง บาร์เซโลนา ที่สนใจ แต่เขาก็ตัดสินใจไปเล่นลีกซาอุฯ ทั้งที่อายุแค่ 26 ปี

มันไม่ได้หมายความว่า เนเวส ต้องการเงินมากกว่าความท้าทาย แต่หมายความว่า ซาอุฯ มีเงินมากพอที่จะซื้อทุกคนในโลก

ไม่ว่าจะเป็นใคร-อายุเท่าไหร่-เก่งแค่ไหน ถ้าต้องการ ลีกซาอุฯสามารถดึงไปได้หมด

หลายสโมสรจึงต้องหันมาให้ความสำคัญ และเตรียมแผนรับมือ “แรงดูด” จากซาอุฯให้ดี

ตอนนี้ อาจจะยังไม่กระทบเท่าไหร่ แต่ในอนาคตจะกระทบแน่นอน

และไม่ใช่กระทบเบาๆด้วย?