หมัด 2 ศอก 2 เข่า 2 เท้า 2” อาวุธหลักของศิลปะการต่อสู้ไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก แม่ไม้ “มวยไทย” การต่อสู้ที่ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายบวกเข้ากับศิลปะ ซึ่งรวมถึงการร่ายรำในช่วงเวลาของการไหว้ครู เป็นหนึ่งในซอฟท์พาวเวอร์ของไทยที่ทำให้ชาวต่างชาติมากมาย เดินทางมายังเมืองไทยเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้แบบให้ถึงแก่น และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดงาน “Amazing Muay Thai Experience” กิจกรรมที่ชักชวนคนรักกีฬามวยไทย ให้มาสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้ กับบรมครูมวยไทยโบราณประจำพื้นถิ่นใน 4 จังหวัด ที่ต่างมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ศิลปะการต่อสู้คือหนึ่งในห้าของสินค้าท่องเที่ยว 5 F ซึ่งประกอบด้วย Food อาหาร Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย Film ภาพยนตร์ Fight ศิลปะการต่อสู้ และ Festival เทศกาลประเพณีไทย เป็นแนวทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดที่มาพลิกโฉมการท่องเที่ยวสู่มิติใหม่ โดยวางกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการสร้างคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นผ่านวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของไทยด้วยซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power)

มวยไทยถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการต่อสู้ที่ชาวต่างชาติต่างยอมรับและต้องการศึกษาเรียนรู้ ททท. จึงได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ 4 จังหวัดที่มีศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุตรดิตถ์ และลพบุรี เพื่อผลักดันให้มวยไทยเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดการพักค้างและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ไปยังพื้นที่และภูมิภาคที่มีการจัดกิจกรรม ก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น”

กิจกรรม Amazing Muay Thai Experience เริ่มเปิดตัวจังหวัดแรกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดขึ้น ณ สะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี ในวันที่ 30 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2566 โดยนำ “มวยไชยา” ที่มีเอกลักษณ์ทั้งการตั้งท่ามวยหรือการจดมวย ท่าครูหรือท่าย่างสามขุม และการป้องกันตัวแบบ 4 ป. คือ ป้อง ปัด ปิด เปิด มี ครูกฤดากร สดประเสริฐ เป็นผู้ฝึกสอน

จากนั้นในวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2566 พบกับ “มวยโคราช” ที่เด่นตรงหมัดหนัก เจ้าของเอกลักษณ์ทั้งการแต่งกายและการคาดเชือกตั้งแต่หมัดไปจรดข้อศอก ออกหมัดเป็นวงกว้างหนักหน่วง ที่เรียกว่า “หมัดเหวี่ยงควาย” มี ครูเช้า วาทโยธา เป็นผู้ฝึกสอน จัดขึ้น ณ เซ็นทรัลพลาซา จังหวัดนครราชสีมา

ต่อมาในวันที่ 11-13 สิงหาคม 2566 พบกับ “มวยท่าเสา” หรือมวยพระยาพิชัย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความไว เป็นการผสมผสานมวยไทยและมวยจีน ออกหมัดได้ไกล รวดเร็ว และรุนแรง มี ครูวรมัน วนันทศานติ เป็นผู้ฝึกสอน จัดขึ้น ณ วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์

ครั้งสุดท้ายพบกับ “มวยลพบุรี” เป็นมวยที่ชกฉลาด ต่อยหมัดแม่นยำ มีการรุกรับที่คล่องแคล่วว่องไวหลอกล่อ หลบหลีกได้ดี มี ครูยะ ส. สุนีย์ เป็นผู้ฝึกสอน จัดขึ้น ณ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี วันที่ 18-20 สิงหาคม 2566

นอกจากการฝึกฝนมวยที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแห่งแล้ว ยังมีการแข่งขันมวยไทย ประกบคู่มวยโดย ครูดาม ศรีจันทร์ เจ้าของผลงานเหรียญทองชื่อดังในอดีต ทั้งซีเกมส์ ชิงแชมป์เอเชีย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกีฬามวยไทย และมวยสากล การสักยันต์ โดย อาจารย์สักยันต์ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นสมาชิกของสมาคมสักยันต์แห่งประเทศไทย การจําหน่ายวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังโดยเชื่อกันว่าจะสามารถปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ กิจกรรม INTERACTIVE เกี่ยวกับมวยไทย การแสดงนาฏมวยไทย และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม และเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย ภายในงาน “Amazing Muay Thai Experience” ที่จะจัดขึ้นใน 4 จังหวัด และร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเยือน

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page: Thailand Festival หรือ TAT Contact Center โทร.1672 Travel buddy