“เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา” กลายเป็น “วลีเด็ด” ของผู้ที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง เกี่ยวกับปัญหา “การพนันออนไลน์” ที่กำลังทำร้ายสังคมไทย เนื่องจากเด็ก-เยาวชนติดการพนันออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่การงานดี ก็ต้องเสียผู้เสียคน ถ้าหลงทางเข้าไปสู่วังวนของการพนันออนไลน์

เรื่องของการพนันออนไลน์ ยังบานปลายไปสู่ปัญหาอาชญากรรม การต้มตุ๋น การฟอกเงิน เอาเงินไปฟอกในวงแชร์ บ้างก็เอาเงินไปฟอกด้วยการทำทีมฟุตบอล

ส่วนกรณี “เป้รักผู้การเท่าไร” ก็เนื่องมาจากมีการจับกุม “พลตำรวจตรี” อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกที่เป็น “ร...-...” อีกหลายคน ที่ไปจับเว็บพนันออนไลน์ของนายเป้ (เป้รักผู้การ) และ “บอย พัทยา” แล้วมีการรีดไถเงินกันหลายสิบล้านบาท บางกระแสบอกว่าสูงถึง 140 ล้านบาท

สุดท้ายจึงมีรายการย้อนศร! เอาโปลิศมาจับตำรวจ!ก็ไม่รู้ว่างานนี้เป็นการวางงานเพื่อตะครุบนายตำรวจใหญ่กับพวก อันเนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า หรือว่าเพราะ “ทับสัมปทาน” กันแน่?

โดยปกติเว็บพนันออนไลน์ต้องจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว จ่ายมาก จ่ายน้อย ถ้าพอรับกันได้ก็เปิดเว็บพนันต่อไป

แต่บางครั้งอาจจะรีดกันหนักมือไปหน่อย เพราะต้องไปจ่ายค่า “ตั๋วครึ่งราคา” ซึ่งเป็นตั๋วของนักการเมืองในการวิ่งเต้นโยกย้ายตำรวจในแถบภาคตะวันออก โดย “ตั๋วลิง (พวกห้อยโหน)-ตั๋วช้าง” จ่ายกันเท่าไหร่ไม่รู้! แต่ถ้าเป็นตั๋วนักการเมืองคนดังภาคตะวันออก เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็น “ตั๋วครึ่งราคา”

โดยเฉพาะเว็บพนันออนไลน์ของ “เป้รักผู้การ และ “บอย พัทยา” ต้องมีนายตำรวจใหญ่อยู่เบื้องหลัง 2 คนนี้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่สุ่มสี่สุ่มห้าไปตะครุบผู้การชลบุรี กับพวกอีกเป็นโขยง!

นอกเหนือจากผู้การชลบุรี ตอนนี้ยังมี “พลตำรวจตรี” ในระดับ “ผู้การ” ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โผล่เข้ามาอีกด้วย

ตามข่าวว่าผลงานล่าสุดของ “พลตำรวจตรี” คือส่งกลุ่มคนไปอุ้มและทำร้าย “วิศวกร” ที่เป็นโปรแกรมเมอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็น “แอดมิน” ให้เว็บพนันออนไลน์ จากสาเหตุที่ทำยอดรายได้เว็บพนันออนไลน์ลดลง

ปัญหาของเว็บการพนันที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และมีคนใหญ่คนโตเข้าไปเกี่ยวข้อง หนีไม่พ้นข้อสงสัยว่าเพื่อต้องการหาเงินมาจ่ายในช่วงฤดูแต่งตั้งโยกย้ายในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะที่พูดกันมากคือตั้งแต่ตำแหน่งผู้การ-ผู้บัญชาการ หรืออาจเลยไปสูงกว่านั้น

แต่ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง เกิดขึ้นในยุค “รัฐราชการ” ที่มีพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวขบวนของ “รัฐราชการ” ที่ล้มเหลว! เนื่องจากมีปัญหาทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด การพนัน และคอร์รัปชัน หนักข้อกว่าก่อนทำรัฐประหารในปี 57 เสียอีก!

มีอย่างที่ไหนที่ข้าราชการระดับ “อธิบดี” ถูกบุกรวบคาห้องทำงาน พร้อมเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ที่ได้มาจากการวิ่งเต้นโยกย้ายข้าราชการในกรมฯ มียุคไหนที่ระดับ “พลตำรวจตรี” 2 คนพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ คนหนึ่งโดนรวบ! แต่อีกคนทำท่าว่าจะรอด!เพราะโยนเผือกร้อนให้ลูกน้อง และอีกคนคือ “นายพล จ.” แต่ตอนนี้เรื่องราวเงียบไปแล้ว

คือเป็นยุคที่ทำอะไรกันอย่างย่ามใจ ไม่สนใจเรื่องถูก-ผิด ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการ ตํารวจ (ประธาน ก.ตร.) อยู่นะ!!

————————
พยัคฆ์น้อย