สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพร่วม ระหว่างวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เป็นเชื้อตาย "โคโรนาแวค" ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ซึ่งต้องฉีดสองเข็ม กับวัคซีน "คอนวิเดเซีย" พัฒนาด้วยเทคโนโลยีไวรัล เวกเตอร์ โดยบริษัทแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ ซึ่งฉีดเพียงเข็มเดียว อาศัยกลุ่มตัวอย่าง 300 คน ทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 18-59 ปี
ทั้งนี้ ผู้ที่รับวัคซีนของแคนซิโนเป็นเข็มที่สาม เพื่อเป็นบูสเตอร์ หรือกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยทิ้งช่วง 3-6 เดือน หลังรับวัคซีนของซิโนแวคครบสองเข็ม ปรากฏว่าระดับภูมิคุ้มกันสลายเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 78 เท่า ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนเข็มที่สาม
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างซึ่งรับวัคซีนของซิโนแวค 3 เข็ม แบ่งเป็นสองเข็มตามปกติ และเป็นเข็มกระตุ้นหนึ่งเข็ม ปรากฏว่า ระดับภูมิคุ้มกันสลายเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15.2 เท่า ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนเข็มที่สาม
ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นของซิโนแวค แล้วหลังจากนั้น 1-2 เดือน ฉีดวัคซีนของแคนซิโนเป็นเข็มที่สอง ปรากฏว่า ระดับภูมิคุ้มกันสลายเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 25.7 เท่า หลังรับวัคซีนของแคนซิโนได้ประมาณ 2 สัปดาห์  และการฉีดวัคซีนของซิโนแวคสองเข็มโดยไม่มีการฉีดบูสเตอร์แบบใดเลย กระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันสลายเชื้อไวรัสได้ 6.2 เท่าโดยเฉลี่ย
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาชิ้นนี้ ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยทางการแพทย์หลายแห่งของจีน ร่วมกับแคนซิโน และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของอีกหลายเมืองในจีน ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการพิชญพิจารณ์ และไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับระดับภูมิคุ้มกันสลายเชื้อไวรัส ที่จะมีผลต่อเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ อาทิ เชื้อเดลตา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES